วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

นายตำรวจสัญญบัตรรอบ อก

แนวข้อสอบชุดนี้ น้อง GI-AND สมาชิก ที่สอบติดนายตำรวจสัญญบัตรรอบ อก. 800 นาย ได้นำมามอบให้อาจารย์วอนเพื่อแจกจ่ายเป็นวิทยาทานแก่เพื่อนผู้สนใจทั่วไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยแบบทดสอบ ชุดที่ 1คำสั่ง จงหาตัวเลขถัดไปจากอนุกรมหรือลำดับตัวเลขที่กำหนดให้คำสั่ง จงหาตัวเลขถัดไปจากอนุกรมหรือลำดับตัวเลขที่กำหนดให้ข้อ 1. 1 1 7 9 17 …1. 25 2. 28 3. 30 4. 33ตอบ 4 เกิดจาก 7 + 9 + 17ข้อ 2. 11 33 99 297 891 …1. 2,673 2. 2,783 3. 2,571 4. 2,626ตอบ 1 เกิดจาก 891 x 3ข้อ 3. 3 4 5 12 21 38 …1. 55 2. 59 3. 68 4. 71ตอบ 4 เกิดจาก 12 + 21 + 38ข้อ 4. 1 3 5 7 10 13 13 17 21 …1. 17 2. 19 3. 25 4. 27 ตอบ 2 มองข้ามทีละ 2 ตัว 1 ไป 7, 7 ไป 13, 13 ตอบ 13+6 = 19ข้อ 5. 33 67 136 275 554 ......1. 1113 2. 1442 3. 1667 4. 1699ตอบ 1 ตีแฉกหาความแตกต่างไป 2 ชั้น จะได้ 554 + 559 = 1,113คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดข้อ 6. 10 3 7 12 5 7 14 …1. 6 2. 7 3. 9 4. 11ตอบ 2 หลัง 10 คือ 3 หลัง 2 คือ 5 หลัง 14 คือ 7ข้อ 7. ปีนี้ ก. อายุมากกว่า ข . อยู่ 5 ปี อีก 2 ปี ข้างหน้าอายุของ ก .จะเป็น 2 เท่าของ ข .อยากทราบว่าปีนี้ ก.อายุเท่าไร1. 6 ปี 2. 8 ปี 3. 10 ปี 4. 12 ปีตอบ 2ข้อ 8. พ่อค้าติดราคาสินค้าไว้สูงกว่าต้นทุน 50% แต่ลดราคาให้แก่ผู้ซื้อ 20% ของราคาที่ติดไว้ หากขายสินค้าดังกล่าวได้ พ่อค้าจะได้กำไรกี่ %1. 30% 2. 25% 3. 20% 4. 18%ข้อ 9. บริษัทแห่งหนึ่งมีพนักงาน 30 คน เมื่อถึงวันปีใหม่ทุกคนจะต้องส่งบัตรอวยพรให้แก่กันและกัน อยากทราบว่าจะมีบัตรอวยพรรวมทั้งสิ้นกี่ใบ1. 870 ใบ 2. 900 ใบ 3. 920 ใบ 4.960 ใบข้อ 10. ถ้ารัศมีของวงกลมเพิ่มขึ้น 40% อยากทราบว่าพื้นที่ของวงกลมเพิ่มขึ้นกี่%1. 40% 2. 80% 3. 96% 4. 125%ข้อ 11. ถ้ารัศมีของวงกลมลดลง 20% อยากทราบว่าพื้นที่ของวงกลมลดลงกี่%1. 20% 2. 36% 3. 44% 4. 64%ข้อ 12. แบบทดสอบคณิตศาสตร์ชุดหนึ่งมี 10 ข้อ ถ้าทำถูกจะได้ข้อละ 10 คะแนน ถ้าทำผิดจะถูกหักออกข้อละ 3 คะแนน นายเปรมศักดิ์ ณ คลองประปา ทำข้อสอบทุกข้อได้คะแนน 61 คะแนน อยากทราบว่าเขาทำข้อสอบดังกล่าวถูกมากกว่าผิดอยู่กี่ข้อ1. 3 ข้อ 2. 4 ข้อ 3. 5 ข้อ 4. 6 ข้อข้อ 13. แอลกอฮอล์เข้มข้น 50% จำนวน 5 ลิตร ผสมกับแอลกอฮอล์เข้มข้น 30% จำนวน 15 ลิตร จะได้แอลกอฮอล์ผสมใหม่เข้มข้นกี่ %1. 32% 2. 33.5% 3. 35% 4. 38%ข้อ 14. นางสาวพิมพ์นภา ณ คลองแสนแสบขับรถจากกรุงเทพฯ ไปชลบุรี ขาไปขับด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขากลับขับรถกลับเส้นทางเดิมด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จงหาความเร็วเฉลี่ยของการขับรถขับรถไป-กลับ กรุงเทพฯ – ชลบุรีในครั้งนี้1. 94 กม./ชม. 2. 96 กม./ชม. 3. 100 กม./ชม. 4. 108 กม./ชม.ข้อ 15. คนงาน 7 คน ขุดบ่อ 15 บ่อใช้เวลา 2 วัน ถ้าใช้คนงาน 4 คน ขุดบ่อในเวลา 7 วัน จะขุดได้กี่บ่อ1. 30 บ่อ 2. 32 บ่อ 3.35 บ่อ 4. 40 บ่อข้อ 16. เกษตรกรเลี้ยงหมูเพื่อจำหน่ายใช้เวลา 1 ปี โดยหมูจะขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกๆ 4 เดือน และจะขายหมูไปทุก 4 เดือนต่อครั้งๆ ละ 24 ตัว โดยในการขายครั้งสุดท้ายปรากฏว่าขายหมูหมดพอดี จงหาว่าเกษตรกรเริ่มเลี้ยงหมูครั้งแรกกี่ตัว1. 21 ตัว 2. 23 ตัว 3. 24 ตัว 4. 26 ตัวข้อ 17. กำหนดให้ 3 * 4 = 25 และ 2 * 3 = 13 แล้ว 2 * (3 * 4) = ?1. 452 2. 574 3. 629 4. 742ข้อ 18. กำหนดให้ 9 * 7 = 30 และ 4 * 5 = 19 แล้ว 8 * 6 = ?1. 20 2. 22 3. 24 4. 26ข้อ 19. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน 2 ห้องพบว่า ห้อง ก. มีนักเรียน 40 คน สอบได้คะแนนเฉลี่ย 70 คะแนน ห้อง ข. มีนักเรียน 45 คน สอบได้คะแนนเฉลี่ย 60 คะแนน อยากทราบว่านักเรียนทั้ง 2 ห้องสอบได้คะแนนเฉลี่ยเท่าใด (โดยคะแนนเต็ม 100 คะแนนเท่ากัน)1. 63.5 คะแนน 2. 64 คะแนน 3. 65 คะแนน 4. 66.5 คะแนนข้อ 20. ทีมบาสเกตบอลทีมหนึ่งแข่งขันมาแล้ว 60 ครั้ง ชนะ 40 ครั้ง แต่ยังเหลือการแข่งขันอีก 32 ครั้ง ทีมนี้จะต้องชนะอีกกี่ครั้ง จึงจะถือว่ามีสถิติชนะการแข่งขัน 75% ของการแข่งขันทั้งหมด1. 26 ครั้ง 2. 29 ครั้ง 3. 30 ครั้ง 4. 31 ครั้งคำสั่ง พิจารณาข้อมูลที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามแต่ละข้อที่ถามมาปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรแยกตามภาค (หน่วย : ตัน) ปี 2540 ปี 2541 ปี 25421. ภาคเหนือ 142,111 130,148 154,9872. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 198,470 169,401 240,0843. ภาคกลาง 427,356 401,928 480,7574. ภาคใต้ 126,598 141,026 176,213ข้อ 21. โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละปี เกษตรกรในภาคใดที่ใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณต่ำสุด1. ภาคเหนือ 2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3. ภาคกลาง 4. ภาคใต้ข้อ 22. ในช่วงปี 2540 – 2542 ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงกว่าภา คใต้ คิดเป็นร้อยละเท่าใด1. ร้อยละ 27 2. ร้อยละ 30 3. ร้อยละ 37 4. ร้อยละ 45ข้อ 23. ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีรวมทุกภาคในปี 2542 สูงกว่าปี 2541 กี่เปอร์เซ็นต์1. 20% 2. 25% 3. 30% 4. 35%ข้อ 24. ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของภาคกลางเมื่อปี 2542 สูงกว่าภาคเหนือเมื่อปี 2541 ร้อยละเท่าใ ด1. ร้อยละ 80 2. ร้อยละ 150 3. ร้อยละ 240 4. ร้อยละ 270ข้อ 25. จากข้อมูลข้างต้นข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง1. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือใช้ปุ๋ยเคมีปีละประมาณ 2 แสนตัน2. ปี 2540 เป็นปีที่เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีปริมาณต่ำที่สุด3. ปี 2542 ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีมากกว่าปี 2541 ประมาณ 209,500 ตัน4. ปี 2541 ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของทุกภาคลดลงจากปี 2540 ยกเว้นภาคใต้คำสั่ง พิจารณาข้อมูลที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามแต่ละข้อที่ให้มาปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรแยกเป็นรายปี ตั้งแต่มีการเพาะปลูก 2541/42-2543/44 หน่วย : ตันพืช ปี 2541/42 ปี 2542/43 ปี 2543/44 ค่าเฉลี่ยข้าว 494,147 439,074 584,561 505,927- ข้าวนาปี 340,055 269,621 ? ?- ข้าวนาปรัง 154,092 169,453 ? 170,927อ้อย 140,101 123,730 138,851 ?ยาสูบ 28,669 32,528 24,737 28,645พืชไร่ 20,067 18,743 26,547 21,786ผักต่างๆ 101,413 98,565 126,229 108,735ยางพารา 67,091 82,576 89,946 79,872ปาล์มน้ำมัน 17,444 19,122 ? 21,698ผลไม้และพืชยืนต้น 25,610 28,165 32,642 28,805รวมทั้งสิ้น ? ? 1,052,041 929,695ข้อ 26. ในระหว่างปีการเพาะปลูก 2541/42 – 2543/44 เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีกับพืชประเภทข้าวรวมเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละเท่า ใดของปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ยทั้งหมด 1. 50.74 2. 54.42 3. 60.18 4. 64.78ข้อ 27. ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีระหว่างพืชประเภทข้างนาปี กับข้าวนาปรังของปีการเพาะปลูกใด มีอัตราส่วนเท่ากับ 8 : 51. ปี 2541/42 2. ปี 2542/43 3. ปี 2543/44 4. ถูกทั้ง 3 ปีข้อ 28. ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีกับผลไม้และพืชยืนต้นในปีการเพาะปลูก 2543/44 สูงกว่าปีการเพาะปลูก 2541/42 อยู่ร้อยละเท่าใด1. ร้อยละ 24 2. ร้อยละ 27 3. ร้อยละ 30 4. ร้อยละ 36ข้อ 29 ในปีการเพาะปลูก 2542/43 ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของพืชประเภทอ้อยสูงกว่าผักต่างๆ อยู่ร้อยละเท่าใด1. ร้อยละ 18 2. ร้อยละ 22 3. ร้อยละ 26 4. ร้อยละ 30ข้อ 30. ในปีการเพาะปลูก 2543/44 เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีกับปาล์มน้ำมันทั้งหมดกี่ตัน1. 25,136 ตัน 2. 27,636 ตัน 3. 28,528 ตัน 4. 29,274 ตันคำสั่ง พิจารณาเงื่อนไขที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามแต่ละข้อตามหลักเกณฑ์การตอบที่กำหนดให้ กำหนดให้เครื่องหมายเป็นดังนี้= หมายถึง เท่ากับ ¹ หมายถึงไม่เท่ากับ ซึ่งอาจมากกว่าหรือเท่ากับ> หมายถึง มากกว่า < หมายถึง น้อยกว่า> หมายถึง ไม่มากกว่า ซึ่งอาจน้อยกว่าหรือเท่ากับ< หมายถึง ไม่น้อยกว่า ซึ่งอาจมากกว่าหรือเท่ากับหลักในการตอบคำถามตอบ 1. ถ้าข้อสรุปทั้งสองเป็นจริงตามเงื่อนไขตอบ 2. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่เป็นจริงตามเงื่อนไขตอบ 3. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่แน่ชัด หรือไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงตอบ 4. ถ้าข้อสรุปใดข้อสรุปหนึ่งเป็นจริง หรือไม่เป็นจริงหรือไม่แน่ชัด ซึ่งไม่ซ้ำกับอีกข้อสรุปหนึ่ง เงื่อนไข ถ้า A > B < c =" 2N"> M และ E > C <> S <> M ข้อสรุปที่ 2 A = Eข้อ 32. ข้อสรุปที่ 1 B = Nข้อสรุปที่ 2 C > Tข้อ 33. ข้อสรุปที่ 1 3M > 2Nข้อสรุปที่ 2 E <> Mข้อสรุปที่ 2 C <> 2Tเงื่อนไข- มีนักท่องเที่ยว 5 ชาติ คือ จีน สิงคโปร์ เกาหลี คูเวต และมาเลเซีย มาเที่ยวประเทศไทย แต่ละคนต้องการ ไปชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งไม่ซ้ำกัน- สถานที่ที่นักท่องเที่ยวแต่ละคนต้องการไป คือ วัดเบญจมบพิตร ตลาดน้ำวัดไทร วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง และพิพิธภัณฑ์ แต่ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยว 4 คน หลงไปที่อื่น คือ ตลาดน้ำตลิ่งชัน วัดอรุณราชวราราม วัดโพธิ์ และวัดสุทัศน์- มีนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปตลาดน้ำ วัดไทรไปถามทางจากนักศึกษาจึงหลงทางไปตลาดน้ำตลิ่งชัน- มีนักท่องเที่ยวอยู่คนหนึ่ง ไม่ได้ถามทางใครและไม่หลงทาง- ชาวคูเวตต้องการไปชมหินอ่อนที่วัดเบญจมบพิตร- ชาวสิงคโปร์ไปถามทางจากคนแต่งชุดสีกากีแล้วหลงทางไปวัดโพธิ์- คนจีนไม่ต้องการไปพิพิธภัณฑ์และหลงทางไปวัดอรุณราชวราราม- ชาวมาเลเชียไปถามทางจากพระจึงหลงทางไปที่อื่น ทั้งๆ ที่จะไปศาลหลักเมือง- คนที่หลงไปตลาดน้ำตลิ่งชันคือ ชาวเกาหลี- มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ถามทางจากกระเป๋ารถเมล์ข้อ 36. ข้อสรุปที่ 1 ชาวจีนไปถามทางจากกระเป๋ารถเมล์ข้อสรุปที่ 2 ชาวสิงคโปร์ถามทางจากตำรวจข้อ 37. ข้อสรุปที่ 1 ชาวคูเวดหลงทางไปวัดสุทัศน์ข้อสรุปที่ 2 ชาวมาเลเชียไม่ได้หลงทางข้อ 38. ข้อสรุปที่ 1 นักศึกษาบอกทางคนเกาหลีข้อสรุปที่ 2 ชาวจีนต้องการไปเที่ยววัดพระแก้วข้อ 39. ข้อสรุปที่ 1 คนที่หลงทางไปวัดสุทัศน์คือ คนที่อยากไปวัดเบญจมบพิตรข้อสรุปที่ 2 ชาวเกาหลีต้องการไปเที่ยวตลาดน้ำมากกว่าไปเที่ยววัดข้อ 40. ข้อสรุปที่ 1 คนที่ต้องการไปพิพิธภัณฑ์กลับหลงทางไปเที่ยววัดโพธิ์ข้อสรุปที่ 2 กระเป๋ารถเมล์ช่วยบอกทางให้กับคนที่ต้องการไปวัดเบญจมบพิตร
แนวข้อสอบชุดนี้ น้อง GI-AND สมาชิก ที่สอบติดนายตำรวจสัญญบัตรรอบ อก. 800 นาย ได้นำมามอบให้อาจารย์วอนเพื่อแจกจ่ายเป็นวิทยาทานแก่เพื่อนผู้สนใจทั่วไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยคำสั่ง พิจารณาคำคู่แรกว่าสัมพันธ์กันอย่างไรแล้วหาคำคู่หลังที่มีความ สัมพันธ์เช่นเดียวกันข้อ 41. ขลุ่ย : แตร :: ? : ?1. พิณ : ไวโอลิน 2. ขิม : กลอง 3. จะเข้ : ระนาด 4. ปี่ : ฆ้องข้อ 42. ลพบุรี : เมืองละโว้ :: ? : ?1. ญี่ปุ่น : เมืองปลาดิบ 2. แม่ฮ่องสอน : เมืองสามหมอก 3. ลำปาง : เมืองหริภุญชัย 4. ภูเก็ต : เมืองร้อยเกาะข้อ 43. เชียงใหม่ : ลอนดอน :: ? : ?1. ซิดนีย์ : นิวยอร์ค 2. เกียวโต : ปารีส 3. มะนิลา : เจนีวา 4. เจนีวา : ซิดนีย์ข้อ 44. ถุงพลาสติก : ใบตอง :: ? : ?1. ดาวเหนือ : เข็มทิศ 2. เตาถ่าน : เตาไฟฟ้า 3. เครื่องคิดเลข : ลูกคิด 4. เกวียน : รถยนต์ข้อ 45. รัศมี : เส้นผ่าศูนย์กลาง :: ? : ?1. ปักษ์ : เดือน 2. ศอก : วา 3. คืบ : เมตร 4. เดือน : ปีคำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดข้อ 46. คนจีนทุกคนเป็นคนขยัน คนขยันทุกคนเป็นคนซื่อสัตย์ คนซื่อสัตย์ทุกคนเป็นคนโอบอ้อมอารี ดังนั้น1. คนจีนบางคนเป็นคนซื่อสัตย์ 2. คนซื่อสัตย์บางคนเป็นคนโอบอ้อมอารี3. คนจีนทุกคนเป็นคนโอบอ้อมอารี 4. คนโอบอ้อมอารีทุกคนเป็นคนขยันข้อ 47. ถ้าจัตุรัสเป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่รูปนี้ไม่เป็นสี่เหลี่ยม ดังนั้น1. รูปนี้อาจจะเป็นจัตุรัส 2. รูปนี้ไม่ใช่จัตุรัส3. รูปนี้อาจจะมีเหลี่ยม 4. รูปนี้เป็นทรงกลมข้อ 48. ถ้ารัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน ฉันจะเลิกใช้รถยนต์ ฉันเลิกใช้ รถยนต์ ดังนั้น1. รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน 2. รัฐบาลไม่ขึ้นราคาน้ำมัน3. รัฐบาลให้เลิกใช้รถยนต์ 4. สรุปแน่นอนไม่ได้ข้อ 49. ความสำเร็จของการพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างประช าชนกับรัฐบาล แม้รัฐบาลจะทุ่มเทงบประมาณในการพัฒนาประเทศไปเป็นจำนวนมากสักเพ ียงใด แต่หากขาดความร่วมมือของประชาชนแล้ว งบประมาณจำนวนมหาศาลดังกล่าวก็แทบจะไม่มีประโยชน์ ดังเช่นในอดีต ประเทศเวียดนามใต้ เมื่อครั้งสงครามเย็น แม้รัฐบาลจะได้รับเงินสนับสนุนจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อมาจัด สรรงบประมาณมากสักเพียงใด แต่คนประเทศขาดความร่วมมือส่งผลให้การพัฒนาไม่เกิดผลข้อความข้างต้นสอดคล้องกับข้อใด1. ความล้มเหลวของการพัฒนาประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว ่างประชาชนกับรัฐบาล2. ความล้มเหลวของการพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างประ ชาชนกับรัฐบาล3. การขาดความร่วมมือระหว่างประชาชนกับรัฐบาลเป็นสาเหตุของความล้ม เหลวในการพัฒนาประเทศ4. การขาดความร่วมมือระหว่างประชาชนกับรัฐบาลเป็นสาเหตุของความสำเ ร็จของการพัฒนาประเทศข้อ 50. การพัฒนาชุมชนที่มีประสิทธิภาพจะต้องพัฒนาทั้งระบบ ทั้งการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและการพัฒนาขีดความส ามารถในเทคโนโลยี นอกเหนือจากสิ่งอื่นใดในการพัฒนาจะต้องปลูกฝังจิตใจ จิตสำนึกให้แก่บุคลากรในองค์กรนั้นด้วย โดยให้ทุกคนตระหนักเสมอว่าองค์กรจะประสบความสำเร็จได้ด้วยพนักงานทุกๆ คนข้อความข้างต้นสอดคล้องกับข้อใด1. การพัฒนาชุมชนที่ไม่มีประสิทธิภาพจะไม่พัฒนาทั้งระบบ2. การพัฒนาชุมชนที่ไม่มีประสิทธิภาพจะพัฒนาทั้งระบบ3. การพัฒนาชุมชนเพียงบางระบบจะทำให้การพัฒนานั้นไม่มีประสิทธิภาพ4. การพัฒนาชุมชนเพียงบางระบบจะทำให้การพัฒนานั้นมีประสิทธิภาพคำสั่ง พิจารณาเลือกคำหรือกลุ่มคำที่เหมาะสมเติมลงในช่องว่างให้ได้ใจความถูกต้องสมบูรณ์ข้อ 51. น้ำผึ้งเป็น…………ของน้ำหวานจากดอกไม้และจากแหล่งน้ำหวานอื่นๆ1. เสบียง 2. ผลิตผล 3. อาหารเสริม 4. ผลพลอยได้ข้อ 52. ผู้ปฏิบัติงานยังไม่เห็นความสำคัญของข้อมูลเบื้องต้น ทั้งๆ ที่สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการบริหารที่มี……………..1. หลักการ 2. คุณภาพ 3. มาตรฐาน 4. ประสิทธิภาพข้อ 53. เวียดนามโชคดีที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มี….……….ในการพั ฒนาได้สูง……………สิ่งที่เวียดนามยังขาดอยู่ในขณะนี้คือ ทุน เทคโนโลยี และความรู้ ความชำนาญในการนำทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นมาใช้1. คุณภาพ เพราะ 2. ศักยภาพ แต่ 3. สมรรถภาพ ทว่า 4. ประสิทธิภาพ ดังนั้นข้อ 54. ปากกบคือ รอยมุมของสิ่งที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม…………....กันเป็นรอยแบ่งมุมฉา กออกเป็นสองมุม เช่น รอยมุมสบง จีวร กรอบรูป กรอบหน้าต่าง เป็นต้น1. เชื่อม 2. ประชิด 3. ประกบ 4. ต่อเนื่องข้อ 55. ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกเห็นความส ำคัญและกำหนดมาตรการ ในการ……..สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการ…………..เทคโนโลยีและเศรษฐกิ จ1. รักษา ศึกษา 2. ดูแล ปรับปรุง 3. อนุรักษ์ พัฒนา 4. ควบคุม ส่งเสริมข้อ 56. การเรียนรู้ในเรื่องราวและวิชาการสาขาต่างๆ…………เป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับชีวิต1. โดยทั่วถึง 2. โดยสม่ำเสมอ 3. โดยเกี่ยวข้อง 4. โดยกว้างขวางข้อ 57. ชีวิตของคนไทยและประเทศไทย…………..กับน้ำและคนไทย…………..ชีวิตอยู่ ได้ด้วยดีตลอดมา1. ผูกพัน ดำรง 2. เกี่ยวข้อง ของ 3. สัมพันธ์ ดำเนิน 4. เกี่ยวพัน พัฒนาข้อ 58. สมปอง……..กางเกงชุดนอนออกแล้ว เอาเครื่องแบบมาสวมเพื่อไปทำงานใน……..ที่สองของวันเสาร์1. ผัด ผลัด 2. ผลัด ผัด 3. ผัด ผัด 4. ผลัด ผลัดข้อ 59. มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทำให้รถบรรทุก…………….การจราจรและทำให้การเด ินรถ…………..1. ขัดขวาง ติดขัด 2. กีดขวาง ขัดข้อง 3. ขัดขวาง ขัดข้อง 4. กีดขวาง ติดขัดข้อ 60. การทำงานโครงการนี้……….จะได้รับความร่วมมือประสานงานจากทุกฝ่ ายเป็นอย่างดี…………สามารถบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ 1. ถึง ก็ 2. หาก จึง 3. แม้ แต่ก็ 4. แม้ว่า แต่ก็ไม่คำสั่ง พิจารณาเลือกข้อที่ใช้ภาษารัดกุมและถูกต้องตามหลักภาษาข้อ 61. 1. เป็นธรรมดาของผลไม้มีทั้งรสหวานและรสเปรี้ยว2. แถวนี้มีบ้านเรือนของคนอยู่เป็นจำนวนมาก3. เขาชอบดูหนังนอกจากนั้นก็ชอบไปเที่ยวทะเล4. ปัญหาการจราจรติดขัดต้องได้รับการแก้ไขข้อ 62. 1. ราชนาวีไทยทำหน้าที่คุ้มครองน่านน้ำไทย2. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่พิจารณาว่าจะอนุมัติให้ลาหรือไม่3. อุดมการณ์สำคัญประการหนึ่ง คือ การให้บริการทางด้านวิชาการแก่สังคม4. สวนสาธารณะมีความจำเป็นสำหรับประชาชนข้อ 63. 1. กระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริ ง2. ศูนย์บริการประชาสัมพันธ์เสนอข่าวไม่ทันต่อเหตุการณ์และไม่เห็น ความสำคัญกับประชาชน3. ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมต่อสังคม4. รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวคำปราศรัยต่อนักศึกษาข้อ 64. 1. การดูแลรักษาอย่างดีจะทำ ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้งานได้อย่างมีสมรรถภาพ2. ผู้ที่จะออมเงินควรศึกษาติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันการเงินให ้เข้มงวด3. เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยให้งานบ้านบางอย่างเสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร ็ว4. รถนำเที่ยวสมัยใหม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอยู่พร้อมเพรียงข้อ 65. 1. นากเป็นสารประกอบระหว่างทองคำและทองแดง2. ประเทศในกลุ่มอาเซียนสนับสนุนมติของสหประชาชาติ3. คู่มือการปฏิบัติงานได้ให้บริการแล้ว4. การตากแดดช่วยปกป้องโรคกระดูกอ่อนข้อ 66. 1. ผ้ามัดหมี่ เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนที่มีแนวทางแจ่มใส2. ผู้ที่ติดยาเสพติด เป็นพลเมืองที่ไม่มีคุณภาพ3. ยางพารา เป็นพืชที่ให้ผลประโยชน์มาช้านาน4. ปัจจุบันอุบัติเหตุจากรถยนต์เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงข้อ 67. 1. ระบบการค้าแบบเสรีเอื้ออำนวยกับผู้ประกอบการ2. สหประชาชาติจึงได้ส่งข้าวสารจำนวนมากไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่ นดินไหว3. ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร4. เจ้าหน้าที่ได้แจกสิ่งของแก่ผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมากข้อ 68. 1. การประชุมตามกำหนดข้อบังคับปีละหนึ่งครั้งเรียกว่า การประชุมสามัญ2. การขุดแร่ที่ถูกวิธีทำให้ได้ปริมาณมากและสูญเสียน้อย3. ปัจจัยหลายประการทำให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ4. ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยตกต่ำมากก็เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดีข้อ 69. 1. ศาสตร์ต่างๆ ล้วนให้ประโยชน์แก่ผู้เรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น2. นโยบายการคลัง เป็นมาตรการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล3. อัตราการตายของทารกตกต่ำแสดงถึงความเจริญทางการแพทย์4. อาหารมีรสชาติกลมกลืนกันมากข้อ 70. 1. หลักการทำงานที่ขาดความชำนาญทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานต่ำ2. สตรีเป็นผู้ที่ได้รับการทดแทนในเชิงเศรษฐกิจต่ำ3. รัฐบาลควรสนับสนุนการวางแผนครอบครัวอย่างรัดกุม4. ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้เกษตรกรไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างเป็นธรรมแนวข้อสอบชุดนี้ น้อง GI-AND สมาชิก ที่สอบติดนายตำรวจสัญญบัตรรอบ อก. 800 นาย ได้นำมามอบให้อาจารย์วอนเพื่อแจกจ่ายเป็นวิทยาทานแก่เพื่อนผู้สนใจทั่วไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยคำสั่ง พิจารณาข้อความในตัวเลือก 1, 2, 3 และ 4 ว่าข้อความใดเป็นลำดับที่ 1, 2, 3 หรือ 4 แล้วจึงตอบคำถามแต่ละข้อที่กำหนดให้ข้อ 76. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 21. ส่วนเครื่องหมายอัญประกาศปิด2. ถ้าข้อความในเครื่องหมายอัญประกาศมีความยาวหลายย่อหน้า3. ให้ใส่ไว้เฉพาะย่อหน้าสุดท้าย4. ให้ใส่เครื่องหมายอัญประกาศเปิดไว้ข้างหน้าแต่ละย่อหน้า ข้อ 77. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 31. ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการสำรวจ 2. การจัดทำทะเบียนแหล่งชุมชนโบราณ3. ในการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนโบราณ 4. และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนดำเนินงานข้อ 78. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 21. และอ่านด้วยวิธีการที่เหมาะสม 2. โดยใช้เวลาแรงงานน้อยที่สุด3. ผู้อ่านต้องกำหนดเป้าหมายในการอ่าน 4. เพื่อให้ตนเองบรรลุเป้าหมายมากยิ่งขึ้นข้อ 79. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 21. การสอนต้องยึดจุดมุ่งหมายยึดหลักการเป็นแม่บท2. การสอบที่ดีจะต้องช่วยให้การสอนบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น3. ส่วนการสอบเป็นการติดตามผลการเรียนการสอนเพื่อหาทางแก้ไขข้อบกพ ร่องต่างๆ4. การสอบเป็นส่วนหนึ่งของการสอนข้อ 80. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 41. เป็นเหตุให้พืชผลได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง2. ในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของพื้นที่เสียหาย3. จะได้รับความช่วยเหลือพันธุ์พืชอายุสั้นเพื่อนำไปปลูกทดแทน4. เกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือจะต้องเป็นผู้ประสบภัยธรรมชาติข้อ 81. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 21. และตกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน 2. พายุหมุนในโซนร้อนนับว่าเป็นตัวการสำคัญ3. ทำให้แผ่นดินได้รับความชุ่มชื้นทั่วไป 4. ที่ทำให้เกิดฝนตกแผ่เป็นบริเวณกว้างข้อ 82. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 31. ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ2. กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว3. คณะรัฐมนตรีอนุมัติการทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือการท ูต4. และความตกลงยกเว้นหนังสือเดินทางทูตและราชการกับบราซิลและอาเจนติน่าข้อ 83. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 31. โดยให้ภาคเอกชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งบริษัท2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมถือหุ้นเพื่อดำเนินการ3. เนื่องจากมีความพร้อมอยู่แล้ว4. บริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัดข้อ 84. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 31. กำหนดไว้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ชัดเจน2. มีสอนกันอยู่ทั่วไปไม่เฉพาะแต่พระพุทธศาสนา3. การสอนให้ละเว้นความชั่วและให้ทำความดี4. แต่การสอนให้ชำระจิตใจให้สะอาดทางพระพุทธศาสนาข้อ 85. ข้อความใดเป็นลำดับที่ 31. เข้าในจานแม่เหล็กชนิดแข็ง2. ประเทศไทยได้ทำงานสำคัญเป็นประเทศแรกในโลก3. เพื่อนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 25314. ที่ได้นำข้อความในพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่มคำสั่ง ให้อ่านและทำความเข้าใจกับบทความหรือข้อความที่กำหนดให้ แล้ตอบคำถามที่ตามมาข้อ 86. กรมการค้าภายในเชื่อว่าภาวะการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตครั้งนี ้คงจะไม่กระทบกระเทือน ประชาชนผู้บริโภคมากนัก เพราะปริมาณน้ำมันพืชที่มีอยู่ในสต๊อกในขณะนี้ยังมีพอเพียงกับค วามต้องการในประเทศข้อความข้างต้นตีความได้อย่างไร1. ปริมาณน้ำมันพืชในอนาคตจะลดลง2. ความต้องการน้ำมันพืชในประเทศมีไม่มากนัก3. วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำมันพืชกำลังขาดแคลน4. กรมการค้าภายในมีหน้าที่สำรวจตลาดน้ำมันพืชข้อ 87. ประเทศที่มีประชาชนด้อยการศึกษานิยมใช้วิธีเลือกผู้แทนไปอ อกความเห็นในสภาแต่ประเทศที่เจริญที่พลเมืองมีการศึกษานั้นยังน ิยมให้ประชาชนแสดงประชามติตัดสินใจในปัญหาสำคัญ ข้อความข้างต้นตีความได้อย่างไร1. ประเทศที่มีพลเมืองมีการศึกษาจะไม่มีการเลือกผู้แทน2. ประเทศที่ประชาชนด้อยการศึกษาจะใช้วิธีการแสดงประชามติไม่ได้3. ในการตัดสินปัญหาบางเรื่องประชามติดีกว่าการให้ผู้แทนออกเสียง4. พลเมืองที่มีการศึกษาดีจะแสดงความคิดเห็นได้ดีกว่าผู้แทนที่ออก ความคิดเห็นในสภาข้อ 88. สาเหตุของการเกิดนิ่วเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครสามารถบอกได้แน่น อนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง เท่าที่พบพอบอกได้ว่าอะไรบ้างที่อาจจะเป็นสาเหตุส่งเสริมทำให้เ กิดนิ่วได้ข้อความข้างต้นตีความได้อย่างไร1. นิ่วไม่ได้เกิดจากสาเหตุใดเหตุหนึ่งโดยเฉพาะ 2. สาเหตุของการเกิดนิ่วเท่าที่พบนั้นเป็นสาเหตุที่แท้จริง3. สาเหตุที่ส่งเสริมทำให้เกิดนิ่วนั้นยังไม่มีใครบอกได้แน่นอน4. สิ่งที่เป็นสาเหตุส่งเสริมทำให้เกิดนิ่วเสมอข้อ 89. จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่เกิน 3 คน ให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งข้อความข้างต้นตีความได้อย่างไร1. แต่ละเขตเลือกตั้งจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่น้อยกว่า 3 คน2. แต่ละจังหวัดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่เกิน 3 คน3. จังหวัดที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ไม่เกิน 3 คน ให้มีเขตเลือกตั้งเดียว4. จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นเกณฑ์ในการแบ่งเขตเลือกตั้งข้อ 90. เท่าที่ผ่านมาในอดีตนั้นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่ผลิตและเขียนโด ยคนไทยมีน้อยมากจะมีอยู่บ้างก็เป็นประเภทการ์ตูนซึ่งมีเนื้อหาไ ม่เหมาะสมกับวัยเด็กข้อความข้างต้นตีความได้อย่างไร1. ในอดีตที่ผ่านมาไม่มีหนังสือการ์ตูนที่เขียนโดยคนไทย2. หนังสือภาพสำหรับเด็กที่ไม่ใช่การ์ตูนยังไม่เคยมีคนไทยผลิต3. หนังสือที่ผลิตสำหรับเด็กเรียกว่าหนังสือการ์ตูน4. คนไทยส่วนใหญ่ผลิตหนังสือภาพสำหรับเด็กข้อ 91. การศึกษาในปัจจุบันเป็นการเตรียมคนเพื่อให้เป็นพลเมืองที่ดีมีป ระสิทธิภาพ โรงเรียนในปัจจุบันทำหน้าที่แทนครอบครัวซึ่งก็เป็นไปตามสภาพของ เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือข้อใด1. ในปัจจุบันการศึกษาทั่วไปกระทำเฉพาะในโรงเรียน2. แต่เดิมการศึกษากระทำกันในเฉพาะครอบครัว3. สภาพเศรษฐกิจและสังคมมีผลกระทบต่อคุณภาพของเยาวชน4. ปัจจุบันโรงเรียนมีหน้าที่อบรมคนให้เป็นคนดีมีความสามารถข้อ 92. ในภาษาไทยมีคำว่า “บัณฑิตย์” อีกคำหนึ่งแปลว่าความเป็นบัณฑิต คำนี้ไม่ค่อยใช้โดด ในภาษาไทยมักจะใช้กับคำอื่นในรูปของคำสมาส เช่น ราชบัณฑิตยสถาน เนติบัณฑิตยสถาน เป็นต้นสาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือข้อใด1. บัณฑิตย์มักใช้ในความหมายที่เกี่ยวกับสถานที่2. บัณฑิต และบัณฑิตย์มีการใช้และความหมายแตกต่างกัน3. คำที่อ่านว่า บัน-ดิด มักใช้คู่กับคำอื่นในรูปของคำสมาส4. บัณฑิตใช้โดดๆ ได้ แต่บัณฑิตย์ใช้โดดไม่ได้ข้อ 93. อาหารบางประเภทไม่ว่าจะเป็นผลไม้ เช่น ทุเรียน หรือของสด เช่น ปลาสลิด จะมีปัญหาในเรื่องกลิ่น ทำให้สายการบินทั้งในและต่างประเทศพากันลำบากใจในการรับขนส่ง จึงจำเป็นต้องมีเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับขนส่งสิ่งเหล่านี้โดยเฉพ าะสาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือข้อใด1. อาหารบางประเภทไม่เหมาะกับการขนส่ง2. การขนส่งอาหารบางประเภทต้องใช้เที่ยวบินพิเศษ3. การขนส่งอาหารบางประเภทเป็นปัญหาของทุกสายการบิน4. สายการบินทุกแห่งไม่รับขนส่งอาหารที่มีปัญหาในเรื่องกลิ่นข้อ 94. ปัจจุบันคลองต่างๆ หนาแน่นไปด้วยผักตบชวาและวัชพืช รัฐบาลที่ผ่านมาทุกยุคสมัยได้มีการกำจัดแต่ไม่เป็นผล ทำให้สภาพน้ำในคลองต่างๆ เน่าเสียเพราะน้ำไม่ไหลถ่ายเทสาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือข้อใด1. ผักตบชวาและวัชพืชในลำคลองไม่สามารถกำจัดได้2. ผักตบชวาและวัชพืชในลำคลองเป็นสาเหตุทำให้สภาพน้ำเน่าเสีย3. ผักตบชวามีจำนวนมากขึ้นจนไม่สามารถกำจัดได้4. รัฐบาลไม่สามารถหาวิธีกำจัดผักตบชวาข้อ 95. ปรอทวัดไข้จะมีรอยคอดที่หลอดแก้วในส่วนที่อยู่เหนือกระเปาะที่เ ก็บปรอทเพื่อกันมิให้ปรอทขยายตัวออกจากกระเปาะไปแล้วกลับเข้าสู ่กระเปาะได้อีกเมื่อถูกความเย็น นับเป็นลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้สำหรับวัด อุณหภูมิอื่นๆสาระสำคัญของข้อความข้างต้นคือข้อใด1. เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิไม่ได้ใช้ปรอท2. เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิไม่มีกระเปาะเก็บปรอท3. เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิไม่มีรอยคอดที่หลอดแก้วซึ่งอยู ่เหนือกระเปาะ4. เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิปรอทจะไม่กลับเข้าสู่กระเปาะเม ื่อถูกความร้อนคำสั่ง อ่านบทความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามที่ตามมา จังหวัดอ่างทองมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำไหลผ่านสองสาย คือแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงมีอาชีพทำนา ซึ่งต้องพึ่งพาธรรมชาติ ถ้าปีใดฝนตกน้อยหรือมากไป ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวก็จะลดน้อยลงตามความเสียหายที่เกิดขึ้น ช่วงปี พ.ศ. 2510 – 2518 เป็นเวลา 8 ปี ติดต่อกันที่ชาวบ้านตำบลบ้านวัดตาล (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นตำบลบางเสด็จ) อำเภอป่าโมก ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงเสด็จพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในปี พ.ศ. 2518 ด้วยพระปรีชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงดำริให้มีการฝึกฝนอาชีพการปั้นตุ๊กตาชาววังจากดินเหนียวใ ห้แก่กลุ่มแม่บ้าน ให้ทำเป็นงานอดิเรกเพื่อเพิ่มพูนรายได้ และทรงรับเป็นโครงการในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยในปี พ.ศ. 2519 พระองค์ท่านได้ส่งอาจารย์พร้อมวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างมาสอนที่วัด สระแก้ว สอนสัปดาห์ละ 2 วัน แต่เรียนได้เพียง 3 สัปดาห์ ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวเพราะการปั้นตุ๊กตาชาววังถือเป็นศิลปะชั้นสูง ถ้าเรียนโดยไม่มีการทำพิธียกครูอาจไม่เป็นมงคล ประกอบกับในช่วงเวลานั้นมีลูกเด็กเล็กแดงเจ็บป่วยบ่อยๆ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเสด็จมาทำพิธีครอบครู ซึ่งเป็นพิธีกรรมแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านจึงคลายความกังวลลงได้ กรรรมวิธีการปั้นตุ๊กตาชาววังมีหลายขั้นตอน เริ่มด้วยการเตรียมดิน ซึ่งช่างปั้นต้องเป็นคนไปหาเอง เพื่อให้ดินเหนียวเหมาะกับงานปั้นตุ๊กตา เมื่อเผาออกมาแล้วจะมีสีแดงสวยงามตามธรรมชาติ ดินที่ได้มานั้นต้องนำมาละลายน้ำและผ่านกรองเอาเศษกรวด เศษหิน ออกให้หมดเสียก่อน จึงจะนำมาปั้นได้ด้วยฝีมือที่ชำนาญทำให้การปั้นใช้เวลาไม่มาก บางชิ้นส่วน เช่น ศีรษะตุ๊กตาหรือผลไม้ที่มีความละเอียดมากจะใช้แม่พิมพ์ปูนพาสเต อร์ดินเหนียวออกมา ช่วงที่ยากและทำให้ตุ๊กตาเสียหายมากที่สุดคือการเผา เนื่องจากที่นี่ยังใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิม จึงต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะอยู่เป็นวันๆ ถ้าเพิ่มความร้อนเร็วหรือช้าจนเกินไปจะทำให้ตัวตุ๊กตาแตกหัก บางทีเผาเสร็จเหลือตุ๊กตาไม่ถึงครึ่ง ลงท้ายด้วยการระบายสี ที่ต้องมีการรองพื้นด้วยสีโปสเตอร์ขาวก่อนตามด้วยสีน้ำมันขาวอี กที ก่อนจะระบายเสื้อผ้าและวาดหน้าตาได้ แต่ละขั้นตอนมีกระบวนการที่จุกจิก ยุ่งยาก ต้องพิถีพิถัน ทำให้เสียเวลามาก คนทำต้องอดทนและใจเย็นตุ๊กตาชาววังนอกจากจะทำตามขั้นตอนตอนข้างต้นแล้ว ยังมีการปั้นอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า การปั้นเหมือนจริง ซึ่งจะมีความละเอียดเหมือนคนจริงๆ มากกว่า สีผิวจะเป็นสีของดินเผาแท้ จะลงสีเฉพาะเสื้อผ้าเท่านั้น ใบหน้าก็จะไม่มีการหล่อพิมพ์ แต่จะใช้อุปกรณ์แกะเป็นหน้าตา ตุ๊กตาแบบนี้จะแพงกว่าแบบแรก เพราะมีกรรมวิธียากกว่ามากข้อ 96. คำว่า “ราชินูปถัมภ์” ในย่อหน้าที่ 3 หมายความว่าอย่างไร1. ราชินีทรงเกื้อหนุน 2. พระราชทานโดยพระราชินี3. ราชินีทรงห่วงใย 4. ความกังวลของราชินีข้อ 97. ชื่อเรื่องที่เหมาะสมกับบทความข้างต้นคือ1. อ่างทองดินแดนแห่งความสมบูรณ์ 2. ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ3. กรรมวิธีการปั้นตุ๊กตาชาววัง 4. ตุ๊กตาชาววังกับรายได้เสริมข้อ 98. ขั้นตอนการทำตุ๊กตาชาววังของชาวบ้านตำบลบางเสด็จมีทั้งหมดกี่ขั้นตอน1. 2 ขั้นตอน 2. 3 ขั้นตอน 3. 4 ขั้นตอน 4. 5 ขั้นตอนข้อ 99. หากจะให้ตุ๊กตาชาววังของชาวบ้านตำบลบางเสด็จมีการจำหน่ายมากขึ้ นควรได้รับการช่วยเหลือในเรื่องใด 1. วิทยาการสมัยใหม่ในการเผา 2. เงินทุนที่มากขึ้นกว่าเดิม3. การตลาดที่กว้างขวางขึ้น 4. การขนส่งที่มีประสิทธิภาพข้อ 100. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง1. ประชาชนในจังหวัดอ่างทองทุกพื้นที่ประสพความสำเร็จในการทำนา2. การทำตุ๊กตาชาววังของชาวบ้านต้องซื้อดินจากหน่วยราชการ3. ตุ๊กตาชาววังตำบลบางเสด็จสามารถจำหน่ายได้ในราคาแพงกว่าตุ๊กตาช าววังที่อื่นๆ4. การปั้นเหมือนจริงเป็นการปั้นตุ๊กตาชาววังแบบหนึ่ง
ข้อสอบ วิชาภาษาไทย 1การตีความร้อยกรอง1. คนเห็นคนเป็นคนนั่นแหละคน คนเห็นคนใช่คนใช่คนไม่ เกิดเป็นคนต้องเป็นคนทุกคนไป จนหรือมีผู้ดีไพร่ไม่พ้นคน”บทประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏลักษณะการแต่งแบบใด1. การเล่นคำซ้ำ 2. การเล่นคำพ้อง 3. การใช้สัมผัสสระอักษร 4. การใช้ปฏิพากย์ จงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 2-4“มาทำลายรั้วระวังให้พังราบ มาร่ายเสกมนต์สาปให้หมดเศร้ามาให้ห่วงคิดถึงทุกค่ำเช้า มาปล้นเอาหัวใจไปหมดแล้ว”2.น้ำเสียงของผู้แต่งเป็นอย่างไร1. อาลัย 2. จริงจัง 2. เพ้อฝัน 4. มีความสุข3.ลักษณะการแต่งที่เด่นที่สุดในบทประพันธ์คือข้อใด1. สัมผัสสระ 2. สัมผัสอักษร 3. การใช้ภาพพจน์ 4. การใช้กลบท4.บุคคลใดน่าจะเป็นประธานของบทประพันธ์นี้มากที่สุด1. ทหารที่ออกไปรบ 2. ขโมย 3. นางอันเป็นที่รัก 4. พ่อมดจงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 5-7ขอบคุณ...ขอบคุณสำหรับโรงบุหรี่ขอบคุณอีกทีกับโรงหวยขอบคุณสนามม้าชาติหน้ารวยขอบคุณโรงเหล้าด้วยช่วยชาติไทย5.ข้อใดเแสดงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เด่นชัดที่สุด1. เกลียดชัง 2. ประชด 3. ชื่นชม 4. ยกย่อง6.ผู้แต่งมีจุดมุ่งหมายตามข้อใด1. เตือนให้คิด 2. แนะให้ทำ 3. ติเตียน 4. สั่งสอน7.คำประพันธ์ในข้อใดใช้น้ำเสียงเหมือนกับคำประพันธ์ข้างต้น1. ไทยคงเอกราชด้วย ฝีมือ ไทยเอย 2. ขอบคุณไมตรีที่มีให้ ความห่วงใยอาทรแต่ก่อนเก่าแม้วันนี้ไม่มีทางระหว่างเรา ก็ไม่เศร้าเหงาหรอกใจบอกมา 3. หนึ่งจะต้องอกหักกับรักแรก สองจะต้องไม่แปลกกับรักใหม่สามจะต้องผิดหวังทุกครั้งไป สี่จะต้องจำไว้รักคือทุกข์ 4. จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผงจะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 8-10“มิ่งมิตร... เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่นที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลมที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสมที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”8.แนวคิดใดไม่ปรากฏในบทประพันธ์นี้1. สิทธิของมนุษย์ 2. ธรรมชาติของชีวิตที่มีทุกข์มีสุขสลับกัน 3. การต่อสู้กับอุปสรรค 4. ความยุติธรรมและความถูกต้อง9.ในบทร้อยกรองนี้ กวีวางตนไว้ในฐานะอะไร1. อาจารย์ 2. เพื่อน 3. พระ 4. บุคคลอันเป็นที่รัก10.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของคำประพันธ์ข้างต้น1. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของถ้อยคำ 2. ความง่ายและความงามของบทกลอน 3. การใช้อุปลักษณ์และบุคคลวัต 4. แสดงแนวคิดทางพุทธศาสนา จงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 11-14โหยหวนหวูดหวูดรถไฟ จุดหมายอยู่ไหนในโลกกว้างผ่านหุบเหวทะเลทรายไปตามราง เลื้อยลอดอุโมงค์กว้างอันมืดนานเด็กน้อยยองยอง แม่ใช้ไปซื้อของซื้อข้าวสารเอาไม้เขี่ยรถไฟบนใบลาน รถไฟคลานเป็น อ.อ่าง ละลานลือพลางควานกระเป๋าพบรอยขาด ตรงที่คาดว่าจะมีเหรียญวางทื่อฉันทำความอิ่มหายไปหลายมื้อ เด็กน้อยตีมือกระทืบรถไฟจนแหลกเหลว11.“รถไฟ” ในที่นี้เป็นการใช้ภาพพจน์ประเภทใด1. อุปลักษณ์ 2. สัญลักษณ์ 3. บุคคลวัต 4. อติพจน์12.“เด็กน้อย” เป็นคนอย่างไร1. ช่างจินตนาการ 2. โหดเหี้ยมอำมหิต 3. ร่ำรวย 4. ไม่ระมัดระวัง13.แนวคิดสำคัญของบทประพันธ์คือ1. ความฝันกับจินตนาการ 2. ความยากจนกับความฝัน 3. ความยากจนกับจินตนาการ 4. ความยากจนกับความไม่ระมัดระวัง14.บทประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏโวหารภาพพจน์แบบใด1. สัทพจน์ 2. อุปลักษณ์ 3. สัญลักษณ์ 4. บุคคลวัตจงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 15-16เขียนคนด้วยคนใหม่ เขียนหัวใจด้วยไมตรีเขียนปากด้วยพจี สุจริตจำนรรจาเขียนสมองและสองมือ ด้วยซื่อสัตย์และศรัทธามุ่งมั่นและปัญญา มาเถิดมามาช่วยกัน15.บทประพันธ์ข้างต้นเป็นสารประเภทใด1. ชวนเชื่อ 2. โน้มน้าว 2. ให้เหตุผล 4. ให้ความรู้16.แนวคิดใดไม่ปรากฏในบทประพันธ์1. โลกสวยด้วยมือเรา 2. การพัฒนาตนเอง 3. สามัคคีคือพลัง 4. ปัญญาประดุจดังอาวุธจงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 17-18หยุดประเดี๋ยวได้ไหมพายุร้าย หยุดส่งสายสุนีบาตมาข่มขู่กัมปนาทกราดเกรี้ยวกันเกรียวกรู เพื่อสักครู่เจ้าจะหลั่งซึ่งฝนรินเติมความรักสักหน่อยนะหัวใจ เติมความหวังไกลอยู่ให้สิ้นให้หยัดอยู่คู่ท้าเถื่อนธรนินทร์ เพื่อแผ่นดินจะงดงามด้วยความรัก17.คำประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏลักษณะการแต่งในข้อใด1. เล่นสัมผัสสระและสัมผัสอักษร 2. เล่นคำพ้องความหมาย 3. ใช้สัญลักษณ์ 4. ซ้ำคำย้ำความหมาย18.ผู้แต่งมีจุดมุ่งหมายในข้อใด1. ให้มีความอดทน 2. ให้มองโลกในแง่ดี 3. ให้มีอุดมการณ์ 4. ให้กำลังใจจงใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 19-20เป็นสร้อยโสภิศพ้น อุปรมาโสรมสรวงศิรธิรางค์ เวี่ยไว้จงคงคู่กัลปา ยืนโยคหายแผ่นดินฟ้าไหม้ อย่าหาย ฯ19.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของคำประพันธ์ข้างต้น1. การใช้อติพจน์ 2. การใช้อุปลักษณ์ 3. การใช้คำอลังการ 4. การใช้อุปมา20.บทประพันธ์นี้ต้องการสื่ออะไร1. แสดงความสำคัญของบทกวี 2. แสดงความยิ่งใหญ่ของบทกวี 3. แสดงความสามารถของกวี 4. แสดงความรู้สึกของกวีธรรมชาติของภาษา 21. ข้อใดเป็นลักษณะร่วมของการใช้เสียงพูดและการใช้ตัวเขียนในการสื่อสาร 1. อวัยวะที่ใช้ในการสื่อสาร 2. อวัยวะที่ใช้ในการรับสาร 3. ตัวสาร 4. ความคงทนของสาร 22. เหตุใดจึงไม่จัดภาษาเขียนไว้ในภาษาในความหมายอย่างแคบ 1. ภาษาเขียนมีความแน่นอนน้อยกว่าภาษาพูด 2. บางภาษายังไม่มีภาษาเขียน 3. ภาษาเขียนไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ 4. ภาษาพูดมีมาก่อนภาษาเขียน 23. กลุ่มคำในข้อใดแสดงให้เห็นว่าเสียงและความหมายในแต่ละภาษาไม่สัมพันธ์กัน 1. ผู้หญิง นารี สตรี กัลยา 2. เคียด แค้น ขุ่น ขึ้ง 3. ตุ๊กแก ฉู่ฉี่ โครม ทุ่ม 4. เก เข เย้ เป๋ 24. หน่วยที่เล็กที่สุดของภาษาคือข้อใด 1. เสียงสระ 2. เสียงพยัญชนะ 3. พยางค์ 4. ถูกทั้ง 1. และ 2. 25. ข้อใดไม่ถูกต้อง 1. ถึงแม้ว่าจะมีเสียงจำกัด เราไม่สามารถสร้างประโยคที่ยาวที่สุดได้ 2. ในแต่ละภาษา หน่วยที่ใหญ่กว่าสามารถจำแนกเป็นหน่วยที่เล็กกว่าได้เสมอ 3. ภาษาเป็นพฤติกรรมการสื่อสารแบบที่ต้องเรียนรู้ซึ่งผู้ใช้กำหนดขึ้นเองทั้งระบบ 4. เนื่องจากภาษาใช้เสียงสื่อสารทำให้ผู้ใช้ภาษาต่าง ๆ สามารถสื่อสารกันเข้าใจได้ทั้งหมด 26. การที่คนบางกลุ่มออกเสียงคำว่า “เต้าเจี้ยว” เป็นคำว่า “เจ้าเจี้ยว” แสดงว่าภาษามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร 1. เกิดการกร่อนเสียง 2. เกิดการผลักเสียง 3. เกิดการกลมกลืนเสียง 4. เกิดการสลับที่ของเสียง 27. คำในข้อใดมีการเปลี่ยนแปลงต่างจากคำอื่น 1. มะพร้าว 2. กระดุม 3. วะวับ 4. ตะเข้ 28. ข้อใดไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาษา 1. การแปรของภาษาตามระดับภาษาและสถานการณ์ 2. การพูดในชีวิตประจำวัน 3. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม 4. อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 29-32 ร้าง ศาสตร์ ฉก หยุด เพชร วุ่น เพศ สั่ง ชาติ พากย์ ภาพ อยาก เมฆ ค่ำ ผัด ซัด เวร ซึ้ง พรรค ด้วง โรค หนอน เพล ยาก หญิง เลข ลิ้น ฉัตร 29. คำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกันตั้งแต่ 3 คำขึ้นไปมีทั้งหมดกี่ชุดคำ 1. 5 ชุด 2. 4 ชุด 3. 3 ชุด 4. 2 ชุด 30. คำที่มีเสียงสระ “เอ” มีทั้งหมดกี่คำ 1. 7 คำ 2. 6 คำ 3. 5 คำ 4. 4 คำ 31. คำที่สะกดในมาตราแม่กก มีมากกว่าคำที่สะกดในมาตราแม่กดกี่คำ 1. มีจำนวนเท่ากัน 2. 1 คำ 3. 2 คำ 4. 3 คำ 32. จากรายการคำข้างต้น มีคำที่มีเสียงวรรณยุกต์ใดน้อยที่สุด 1. เอก 2. โท 3. ตรี 4. จัตวา
คำสั่ง จงเติมคำหรือข้อความสั้น ๆ เพื่อตอบคำถาม ให้วิเคราะห์องค์ประกอบของการสื่อสารต่อไปนี้ "นิดโบกมือลาแดงก่อนไปขึ้นเครื่องบิน" 33. ผู้ส่งสาร : ……………………………… ตอบ นิด 34. ผู้รับสาร : ……………………………… ตอบ แดง 35. สื่อ : …………………………………… ตอบ มือ 36. สาร : ……………………………… …..ตอบ ลา "ป้ายห้ามส่งเสียงดังในห้องสมุด" 37. ผู้ส่งสาร : ………………………………ตอบ ผู้เขียนป้าย 38. ผู้รับสาร : ………………………………ตอบ ผู้อ่านป้าย 39. สื่อ : ……………………………… ……ตอบ ป้าย 40. สาร : ……………………………… …..ตอบ ห้ามส่งเสียงดัง เสียงในภาษา 41. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ภาษาต่างประเทศ 1. เดิน 2.ทบ 3. ปราบ 4. ระฆัง 42. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของภาษาไทย 1. วางคำขยายหลังคำหลัก 2. ไม่เปลี่ยนรูปคำเพื่อบอกเพศ พจน์ กาล 3. มีเสียงควบกล้ำในพยัญชนะท้าย 4. มีลักษณะเหมือนเสียงดนตรี 43. คำควบกล้ำในข้อใดมีเสียงควบกล้ำเป็นเสียงที่มีมาตั้งแต่ภาษาไทยดั้งเดิม 1. เฟรนฟรายด์ 2. บรั่นดี 3. คริสตัล 4. จันทรา 44. จากลักษณะต่อไปนี้ ข้อใดไม่สามารถจำแนกคำไทยได้ 1. มักจะเป็นคำพยางค์เดียว 2. มักจะสะกดตรงมาตรา 3. มีความหมายในตัวเอง 4. เป็นคำที่อ่านเนื่องเสียง 45. ข้อใดต่างจากพวก 1. แสร้ง 2. เศร้า 3. ทราบ 4. ผลิ 46. เป็นศรีแก่ปากผู้ ผจงฉันท์ คือคู่มาลาสรร เรียบร้อย เป็นถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ กลกระแจะต้องน้อย หนึ่งได้แรงใจข้อความนี้มีเสียงควบกล้ำและอักษรนำอย่างละกี่คำ 1. ควบกล้ำ 2 คำ อักษรนำ 2 คำ 2. ควบกล้ำ 2 คำ อักษรนำ 3 คำ 3. ควบกล้ำ 3 คำ อักษรนำ 2 คำ 4. ควบกล้ำ 4 คำ อักษรนำ 4 คำ จงใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 47-48 “อันน้ำใจกวนอูนั้น ถ้าผู้ใดมีคุณแล้วเห็นจะเป็นเหมือนอิเยียว อันเล่าปี่กับกวนอูนั้นมิได้เป็นพี่น้องกัน ซึ่งมีความรักกันนั้น เพราะได้สาบานต่อกัน เล่าปี่เป็นแต่ผู้น้อย เลี้ยงกวนอูไม่ถึงขนาด กวนอูยังมีน้ำใจกตัญญูต่อเล่าปี่ จึงคิดจะติดตามมิได้ทิ้งเสีย...” 47. จากข้อความข้างต้น มีคำที่มีเสียงสระประสมกี่คำ 1. 6 คำ 2. 7 คำ 3. 8 คำ 4. 9 คำ 48. จากข้อความข้างต้น มีคำที่ประสมสระเกินกี่คำ 1. 10 คำ 2. 11 คำ 3. 12 คำ 4. 13 คำ 49. ข้อใดมีคำที่มีเสียงพยัญชนะท้ายมากที่สุด 1. ลางลิงลิงลอดไม้ ลางลิง 2. แลลูกลิงลงชิง ลูกไม้ 3. ลิงลมไล่ลมติง ลิงโลด หนีนา 4. แลลูกลิงลางไหล้ ลอดเลี้ยว ลางลิง 50. ข้อใดมีวรรณยุกต์ไม่ครบห้าเสียง 1. ปางนั้นส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทราเทพกัญญา 2. จำเดิมแต่พระนางเธอลีลาล่วงลับพระอาวาส 3. พระทัยนางให้หวั่นหวาดพะวงหลัง 4. ตั้งพระทัยเป็นทุกข์ถึงพระเจ้าลูกมิขาดสาย 51. คำในข้อใดเป็นพยางค์ปิดทั้ง 2 คำ 1. ประทิ่น ประมาท 2. น้ำมัน กะปิ 3. เกะกะ ห่วงใย 4. ลูกเสือ แม่น้ำ 52. รูปพยัญชนะที่ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวสะกดและพยัญชนะต้นในข้อใดที่เป็นเสียงเดียวกัน 1. คัคนางค์ 2.เอกราช 3. ชลนา 4. เทวทัต 53. ข้อใดมีเสียงสระสั้นทุกพยางค์ 1. น้ำจิ้ม น้ำตาล น้ำหวาน น้ำมัน 2. แม่น้ำ แม่ทัพ แม่ยาย แม่สื่อ 3. นมข้น นมผง นมกล่อง นมสด 4. กระต่าย กระเต็น กระตั้ว กระปุก 54. ข้อใดมีคำที่ออกเสียงวรรณยุกต์ไม่ตรงกับรูปมากที่สุด 1. กาจับกาฝากต้น ตุมกา 2. กาลอดกาลามา ร่อนร้อง 3. เพกาหมู่กามา จับอยู่ 4. กาม่ายมัดกาจ้อง กิ่งก้านกาหลง จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 55-60 ก. สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน ข. ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม ค. กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพยอม ง. อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม 55. ข้อใดมีคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวมากที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ำ) 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 56. ข้อใดไม่มีเสียงสระประสม 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 57. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดน้อยที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ำ) 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 58. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบห้าเสียง 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 59. ข้อใดมีพยางค์เปิดน้อยที่สุด 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 60. ข้อใดประสมสระเสียงสั้นมากที่สุด 1. ก. 2. ข. 3. ค. 4. ง. 61. ข้อใดมีคำลหุมากที่สุด 1. ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน 2. ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล 3. จะขอเป็นนกพิราบขาว 4. ช่วยชี้นำชาวประชาสู่เสรี ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบคำถามข้อ 62-63 เสียทีก็มีชื่อ ได้เลื่องลือสรรเสริญ สงสารว่ากรรมเกิน กำลังดอกจึงจมสูญ62. ข้อความข้างต้นมีคำลหุกี่คำ 1. 1 คำ 2. 2 คำ 3. 3 คำ 4. 4 คำ 63. ข้อความข้างต้นมีคำตายกี่คำ 1. 1 คำ 2. 2 คำ 3. 3 คำ 4. 4 คำ 64. คำครุ-ลหุ จะปรากฏในฉันทลักษณ์ประเภทใด 1. ลิลิต 2. ร่ายยาว 3. คำฉันท์ 4. กลอนนิราศ 65. คำในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันทั้งสองคำ 1. กลบเกลื่อน 2. ทรุดโทรม 3. ว่องไว 4. โครมคราม 66. ข้อใดมีโครงสร้างพยางค์ต่างกับข้ออื่น 1. น้ำตาล 2. น้ำใจ 3. น้ำลาย 4. น้ำแดง 67. คำในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันคำว่า “ปากกา” 1. ดักแด้ 2. แหกตา 3. ทำนา 4. ท้องฟ้า 68. คำในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันทั้งหมด 1. กิน สิน หิน ริน 2. ปัด จัด หั่น ตุ่ม 3. อย่า อยู่ อย่าง อยาก 4. ดิน น้ำ ทอง สวย 69. ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. คำลหุทุกคำเป็นคำตาย 2. พยางค์เปิดทุกพยางค์เป็นคำลหุ 3. คำตายทุกคำเป็นพยางค์เปิด 4. พยางค์เปิดทุกพยางค์เป็นคำตาย 70. ข้อใดมีจำนวนพยางค์น้อยที่สุด 1. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม 2. ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช 3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. คณบดีคณะอักษรศาสตร์
เฉลย1. ง 2. ง 3. ง 4. ค 5. ข6. ก 7. ข 8. ง 9. ข 10. ค11. ก 12. ก 13. ค 14. ค 15. ข16. ง 17. ข 18. ง 19. ง 20. ง21. ค 22. ข 23. ก 24. ง 25. ง26. ค 27. ข 28. ก 29. ข 30. ค31. ก. 32. ง 33. นิด 34. แดง 35. มือ36. ลา 37. 38. 39. 40.41. ง 42. ค 43. ค 44. ง 45. ง46. ก 47. ค 48. ข 49. ง 50. ข51. ค 52. ข 53. ค 54. ข 55. ข56. ก 57. ก 58. ข 59. ง 60. ค61. ค 62. ข 63. ค 64. ค 65. ง66. ข 67. ข 68. ข 69. ก 70. ข
แนววิชาความรู้ความสามารถทั่วไป (ปลัดอำเภอ)อุปมา - อุปไมย
1. ความจน : ความยากจน ........ ? : ?
ก. เศรษฐี : ยาจก ข. การสมมุติ : ความจริง ค. ความมั่งมี : ขอทาน ง. ความชั่ว : อันธพาล
2. ประเทศไทย : กรุงเทพฯ ?
ก.มาเลเซีย : สิงคโปร์ ข.อินเดีย : การาจิ ค.ญี่ปุ่น : เกียวโต ง.อังกฤษ : ลอนดอน
3.รองเท้า : ถุงเท้า ?
ก.สมุด : ดินสอ ข.เสือ : นอน ค.กางเกง : เสื้อ ง.เสื้อเชิ้ต : เสื้อกล้าม
4. แก้ว : น้ำ ?
ก.จาน : ส้อม ข.ขัน : สบู่ ค.กระเป๋า : เงิน ง.สมุด : ดินสอ
5. ครู : นักเรียน ?
ก.ตำรวจ : ผู้ร้าย ข.หมอ : คนไข้ ค.เสื้อ : กางเกง ง.บ้าน : ประตู
1. ความจน : ความยากจน ........ ? : ?
ก. เศรษฐี : ยาจก ข. การสมมุติ : ความจริง ค. ความมั่งมี : ขอทาน ง. ความชั่ว : อันธพาล
2. ประเทศไทย : กรุงเทพฯ ?
ก.มาเลเซีย : สิงคโปร์ ข.อินเดีย : การาจิ ค.ญี่ปุ่น : เกียวโต ง.อังกฤษ : ลอนดอน
3.รองเท้า : ถุงเท้า ?
ก.สมุด : ดินสอ ข.เสือ : นอน ค.กางเกง : เสื้อ ง.เสื้อเชิ้ต : เสื้อกล้าม
4. แก้ว : น้ำ ?
ก.จาน : ส้อม ข.ขัน : สบู่ ค.กระเป๋า : เงิน ง.สมุด : ดินสอ
5. ครู : นักเรียน ?
ก.ตำรวจ : ผู้ร้าย ข.หมอ : คนไข้ ค.เสื้อ : กางเกง ง.บ้าน : ประตู *************** วันละเรื่อง ๆ ละ 5 ข้อครับ von vonn
แนววิชาความรู้ความสามารถทั่วไป (ปลัดอำเภอ)อุปมา - อุปไมย1. ความจน : ความยากจน ........ ? : ? ก. เศรษฐี : ยาจก ข. การสมมุติ : ความจริง ค. ความมั่งมี : ขอทาน ง. ความชั่ว : อันธพาลตอบ ง. ความชั่ว : อันธพาล ความจนดูได้จากความยากจน เช่นเดียวกับความชั่วดุได้จากอัธพาล2. ประเทศไทย : กรุงเทพฯ ?ก.มาเลเซีย : สิงคโปร์ ข.อินเดีย : การาจิ ค.ญี่ปุ่น : เกียวโต ง.อังกฤษ : ลอนดอนตอบ . ง.อังกฤษ : ลอนดอน ประเทศไทยมีเมืองหลวงชื่อกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับอังกฤษมีเมืองหลวงชื่อลอนดอน3.รองเท้า : ถุงเท้า ? ก.สมุด : ดินสอ ข.เสือ : นอน ค.กางเกง : เสื้อ ง.เสื้อเชิ้ต : เสื้อกล้าม ตอบ ง.เสื้อเชิ้ต : เสื้อกล้าม สวมรองเท้าต้องสวมถุงเท้าก่อน เช่นเดียวกัน สวมเสื้อเชิ้ตต้องสวมเสื้อกล้ามก่อน 4. แก้ว : น้ำ ? ก.จาน : ส้อม ข.ขัน : สบู่ ค.กระเป๋า : เงิน ง.สมุด : ดินสอ ตอบ ค.กระเป๋า : เงิน แก้วเอาไว้ใส่น้ำ เช่นเดียวกับ กระเป๋าเอาไว้ใส่เงิน5. ครู : นักเรียน ? ก.ตำรวจ : ผู้ร้าย ข.หมอ : คนไข้ ค.เสื้อ : กางเกง ง.บ้าน : ประตู ตอบ ข.หมอ : คนไข้

วิชา พรบ.ตำรวจแห่งชาติ 2547

แนวข้อสอบ วิชา พรบ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 โดย von(vorapon_k@hotmail.com)ชุดที่ 1ข้อ 1 – 20 ข้อ 1 พ.ร.บ.นี้เรียกอย่างไรจึงถุกต้อง? ก.พระราชบัญญัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ข.พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2547 ค.พระราชบัญญัติสำนนักงานตำรวจแห่งชาติ 2547 ง.พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ตอบ ง.พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ( มาตรา 1 )มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ ” ข้อ 2 ข้อใดถูกต้องที่สุด? ก.พระราชบัญญัติยศตำรวจยังไม่ถูกยกเลิก ข.พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ยกเลิกทั้งหมด 18 ฉบับ ค.พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 คือพระราชบัญญัติที่ใช้อยุ่ในปัจจุบันนี้ ง. พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ยกเลิกทั้งหมด 17 ฉบับ ตอบ ง. พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ยกเลิกทั้งหมด 17 ฉบับ (ตาม ม.3) มาตรา 3 ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ พ.ศ. ๒๕๒๑ (๒) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๑ (๓) ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๘ ลงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ (๔) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๕ (๕) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๘ (๖) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ พุทธศักราช ๒๔๗๗ (๗) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๗ (๘) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ (ฉบับที่ ๓) พุทธศักราช ๒๔๗๙ (๙) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ (ฉบับที่ ๔) พุทธศักราช ๒๔๘๐ (๑๐) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๔๙๓ (๑๑) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๕ (๑๒) พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๔๙๗ (๑๓) พระราชบัญญัติยศตำรวจ พุทธศักราช ๒๔๘๐ (๑๔) พระราชบัญญัติยศตำรวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๕ (๑๕) พระราชบัญญัติยศตำรวจ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๔ (๑๖) พระราชบัญญัติเครื่องแบบตำรวจ พุทธศักราช ๒๔๗๗ (ฉบับที่ ๒) (๑๗) พระราชบัญญัติเครื่องแบบตำรวจ (ฉบับที่ ๓) พุทธศักราช ๒๔๘๓บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นในส่วนที่ได้บัญญัติไว้แล้ว ในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน ข้อ. 3 พระราชบัญญัตินี้ประกาศใช้เมื่อใด? ก. ประกาศใช้ 13 มกราคม พ.ศ. 2547 ข.ประกาศใช้ 12 มกราคม พ.ศ. 2547 ค. ประกาศใช้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ง.ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ตอบ ง.ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ( มาตรา.2 ) มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 4 ข้อใดถูก สำหรับพระราชบัญญัตินี้ ก.เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน ข.โดยคำแนะนำและยินยอมของคณะรัฐมนตรี ค.โดยประกาศถัดจากวันพระราชกฤษฏีกาแล้ว ง.ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2538 ตอบ ง.ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2538 (ม.3 ข้อ 5 ดูคำเฉลย ข้อ 2) ก.เป็นปีที่ 59 ในรัชกาลปัจจุบัน / ข.โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา / ค.ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป( ม.2) ข้อ. 5 บรรดากฏหมาย กฏ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือ คำสั่งอื่นในส่วนที่ได้บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ ก.ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน ข.ให้นายกรัฐมนตรีวินิจนัย ค.ให้นายกรัฐมนตรี ออกกฏกระทรวง ง.ให้ยกเลิกแล้วให้ ผบ.ตร.ตัดสิน ตอบ ก.ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน( ม.3 วรรค 2) ข้อ 6 ข้อใดหมายถึง”ข้าราชการตำรวจ”? ก. ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการ ข. บุคคลที่มียศและไม่มียศ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ค. บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย ง. บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการตอบ ค. บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการ( มาตรา. 4 ) มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “ข้าราชการตำรวจ” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา “กองบัญชาการ” หมายความรวมถึง ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบกองบัญชาการด้วย “กองบังคับการ” หมายความรวมถึง ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบกองบังคับการด้วย ข้อ 7 ผู้รักษาการตาม พรบ.นี้ คือใคร ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ค. รองนายกรัฐมนตรี ง. ผบ.ตร.ตอบ นายกรัฐมนตรี (มาตรา. 5 ) (มาตรา. 5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้ ) ข้อ 8 พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ตราขึ้นโดยคำแนะนำและยินยอมของบุคคลหรือหน่วยงานใด ก. นายกรัฐมนตรี ข. ประธานรัฐสภา ค. วุฒิสภา ง.รัฐสภา ตอบ รัฐสภา ( ก่อน ม.1 ระบุว่า ......จึงทรง......ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา) ข้อ 9 คำว่า “ กองทุน ” ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หมายความว่าอะไร? ก. กองทุนสำหรับครอบครัวข้าราชการตำรวจ ข. กองทุนช่วยเหลืองานสอบสวนคดีอาญา ค. กองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา ง. กองทุนเพื่อการสอบสวนและวิธีพิจารณาความอาญา ตอบ ก.กองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา ( ม.4 ) ข้อ 10 ให้.............. รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และมีอำนาจออก...........เพื่อนปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ก.นายกรัฐมนตรี / พระกิจจานุเบกษา ข.นายกรัฐมนตรี / กฏกระทรวง ค. นายกรัฐมนตรี / พระราชกฤษฏีกา ง.นายกรัฐมนตรี / ระเบียบ ตอบ ข.นายกรัฐมนตรี / กฏกระทรวง (มาตรา. 5 ) ( มาตรา. 5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้ ) ข้อ 11. panda ต้องการทราบว่า ข้อใดถูก ก.ข้าราชการตำรวจต้องรับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนเท่านั้น ข.กองบัญชาการ หมายความว่าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ค.กรรมการหมายความว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจแห่งชาติ ง.กองบังคับการหมายความว่าหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ตอบ ข.กองบัญชาการ หมายความว่าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ( มาตรา. 4)ตามมาตรา. 4 “ ข้าราชตำรวจ”หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้ง หรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการ ส่วนตัวเลือกอื่น ค.กรรมการหมายความว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจแห่งชาติ(ไม่มีคำว่าคณะครับ) ง.กองบังคับการหมายความว่าหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ(ต้องตอบว่ากองบังคับการหมายความว่า ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบกองบังคับการด้วย ครับ ) ข้อ12. พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มีทั้งหมดกี่ลักษณะ ก. 6 ลักษณะ ข.7 ลักษณะ ค. 8 ลักษณะ ง.9ลักษณะ ตอบ ข. 7 ลักษณะ (ข้อนี้ไม่ต้องไปเปิดครับ ดุสารบัญก็พอครับ) ข้อ 13 ประธานกรรมการ หมายถึงบุคคลใด ? ก. ผบ.ตร. ข.นายกรัฐมนตรี ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. รอง ผบ.ตร. ตอบ ข้อนี้หลอกครับ อ้าวววว หากท่านเข้าใจจะทราบว่า ไม่มีข้อถูก ตามมาตรา.4 ประธานกรรมการหมายความว่า ประธานนโยบายตำรวจแห่งชาติ แต่หากต้องตอบตามความจริงนะครับต้องตอบตาม ข้อ ข.นายยกรัฐมนตรี มาตราที่ 17 ครับมาตรา 17 ให้ ก.ต.ช. ประกอบด้วย (๑) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง (๒) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการสรรหาโดยกรรมการตาม (๑) ให้ประธานกรรมการ โดยคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจโทขึ้นไปคนหนึ่งเป็นเลขานุการ ก.ต.ช. และแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจตรีขึ้นไปจำนวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ก.ต.ช. หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๒) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ต.ช. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 14. vonnnnn อยากทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบ่งส่วนราชการได้ตามข้อใด ก.สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / กองบัญชาการ / กองบังคับการ ข.กองบัญชาการ / กองบังคับการ / กองกำกับการ ค.สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / กองบัญชาการ ง.กองบัญชาการภาคต่าง ๆ / กองบังคับการ / กองกำกับการ / แผนก/งาน ตอบ ค.สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / กองบัญชาการ (มาตรา. 10) อ้างจาก มาตรา. 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติแบ่งส่วนราชการดังต่อไปนี้ 1 สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2 กองบัญชาการ การแบ่งส่วนราชการตาม (1) เป็นกองบัญชาการหรือการจัดตั้งกองบัญชาการตาม (2) ให้ตราเป็นพระราชกฤษฏีกา และการแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นให้ออกเป็นกฎกระทรวง และให้กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ในพระราชกฤษฏีกาหรือกฏกระทรวงนั้นแล้วแต่กรณี ข้อนี้อย่าสับสนนะครับ เดี๋ยวจะงง ตัวเลือกบางข้อมีกองบังคับการตามมาด้วย ตามวรรค สอง จะมีคำว่ากองบังคับการ มาเกี่ยวด้วย นั่นแยกมาจากกองบัญชาการตามข้อ (2) ครับ ( เช่น ก.สำนั กงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / กองบัญชาการ / กองบังคับการ )ตัดออกไปเลยครับอย่าสนใจ ข้อ15. TheMeng ต้องการทราบว่า ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก.ปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดตาม ป.อาญา ข.สืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดตาม ป.วิอาญา ค.ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ง. ให้การสนับสนุนกองทัพกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉินตอบ ค.ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา (มาตรา. 6 (3)) มาตรา 6 สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) รักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ (๒) ดูแลควบคุมและกำกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (๓) ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา (๔) รักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร (๕) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของข้าราชการตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๖) ช่วยเหลือการพัฒนาประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย (๗) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ตาม (๑) (๒) (๓) (๔) หรือ (๕) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดความผิดทางอาญาขึ้นสำหรับการกระทำใดเป็นการเฉพาะ และตกอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของข้าราชการตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติตาม (๓) (๔) หรือ (๕) จะตราพระราชกฤษฎีกาโอนอำนาจหน้าที่ตาม (๓) (๔) หรือ (๕) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับความผิดทางอาญาดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นใดก็ได้ ในกรณีเช่นนั้น ให้ข้าราชการตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพ้นจากอำนาจหน้าที่ดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน และให้ถือว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ พนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่ ข้อ16. ให้ สตช.ส่งเสริมให้ท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา....... ฯลฯ.ทั้งนี้การดำเนินการมีส่วนร่วมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่...............ใครกำหนด ?ก. ก.ต.ช.กำหนดข.ก.ต.ร.ค.คณะรัฐมนตรีง.ผบ.ตร.ตอบ ก. ก.ต.ช.กำหนด (มาตรา.ที่ 7 )มาตรา. 7 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเสริมให้ท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ เพื่อป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดทาง อาญา รักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยของประชาชนตามความเหมาะสม และความต้องการแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้การดำเนินการมีส่วนร่วมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีที่ ก.ต.ช.กำหนด ) ข้อ17. การแบ่งข้าราชการตำรวจประเภทไม่มียศด้วยก็ได้โดยให้ตราเป็น.......? ก.พระราชกำหนด ข.พระราชกฤษฏีกา ค.พระราชกิจจานุเบกษา ง.พระราชบัญญัติ ตอบ ข้อ ข.พระราชกฤษฏีกา (ม.8 ) มาตรา 8 ข้าราชการตำรวจอาจให้แบ่งเป็นข้าราชการตำรวจประเภทไม่มียศด้วยก็ได้ โดยให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ข้าราชการตำรวจตำแหน่งใดหรือปฏิบัติหน้าที่ใด จะเป็นข้าราชการตำรวจประเภทไม่มียศให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่ง ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวให้กำหนดวิธีการบรรจุ การแต่งตั้ง การดำเนินการทางวินัย การบังคับบัญชา การโยกย้ายระหว่างข้าราชการตำรวจประเภทมียศและข้าราชการตำรวจประเภทไม่มียศ รวมตลอดทั้งการปรับยศ และปรับเงินเดือนเมื่อมีการโยกย้ายดังกล่าวและการอื่นตามที่จำเป็นไว้ด้วย พระราชกฤษฎีกาตามวรรคสอง ไม่มีผลกระทบฐานะของข้าราชการตำรวจที่มียศอยู่แล้วในวันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ข้อ 18. วัน เวลา ทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดราชการ ของข้าราชการตำรวจ? ก.ก.ต.ร กำหนด ข.ผบ.ตร.กำหนด ค.ครม.กำหนด ง.ประธาน ก.ต.ร.กำหนด ตอบ ข้อ ค. ครม.กำหนด (ม.9) ( ตาม มาตรา. 9 วันเวลาทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดราชการ ของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต.ช.จะกำหนดให้ข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตาม วัน เวลา ที่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีกำหนดก็ได้ ) ข้อ 19 กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่.......จะกำหนดให้แตกต่างจากข้อ 18.ก็ได้ ? ก.ก.ต.ร กำหนด ข.ผบ.ตร.กำหนด ค.นายกรัฐมนตรี กำหนด ง. ก.ต.ช.กำหนด ตอบ ง. ก.ต.ช.กำหนด (ม.9) (มาตรา. 9 วันเวลาทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดราชการ ของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต.ช.จะกำหนดให้ข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตาม วัน เวลา ที่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีกำหนดก็ได้ ) ข้อ 20. การแบ่งราชการเป็นกองบังคับการให้ออกเป็น......? ก.พระราชกำหนด ข.พระราชกฤษฏีกา ค.พระราชกิจจานุเบกษา ง.กฏกระทรวงตอบ ง.กฏกระทรวง(ม.10)( มาตรา.มาตรา. 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติแบ่งส่วนราชการดังต่อไปนี้ 1 สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2 กองบัญชาการ การแบ่งส่วนราชการตาม (1) เป็นกองบัญชาการหรือการจัดตั้งกองบัญชาการตาม (2) ให้ตราเป็นพระราชกฤษฏีกา และการแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นให้ออกเป็นกฎกระทรวง และให้กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ในพระราชกฤษฏีกาหรือกฎกระทรวงนั้นแล้วแต่กรณี
ข้อ 21 ผู้เป็นหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือผู้ใด?ก. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข. จเรตำรวจค. รอง ผบ.ตร.ง. ทุกข้อถูกหมดหากได้รับมอบหมายตอบ ก. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ม.11)มาตรา 11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าส่วนราชการ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) รับผิดชอบควบคุมราชการประจำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และลำดับความสำคัญของแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการที่นายกรัฐมนตรี และ ก.ต.ช. กำหนด รวมทั้งกำกับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติรองจากนายกรัฐมนตรี (๓) เป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (๔) วางระเบียบหรือทำคำสั่งเฉพาะเรื่องไว้ให้ข้าราชการตำรวจหรือพนักงานสอบสวนปฏิบัติการเกี่ยวกับการใช้อำนาจหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่น ข้อ 22 ใครที่เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ ได้รองจาก ผบ.ตร.? ก.จเรตำรวจข.รอง ผบ.ตร. ค. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ง. ทุกข้อ ถูกต้องแล้ว ครับบบบบ ตอบ ง.. ทุกข้อ ถูกต้องแล้ว ครับบบบบ (ม.12)(มาตรา. 12 ให้มีจเรตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผู้ช่วยผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผุ้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ รองจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามที่ผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดหรือมอบหมาย ) ข้อ.23 ใครเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจในกองบัญชาการ รองจาก ผู้บัญชาการ? ก.รอง ผุ้บัญชาการ ข.ผู้ช่วยผุ้บัญชาการ ค.ถูกต้องแล้วครับ ทั้ง ก.และ ข. ง.ไม่มีข้อถูกครับบบบบตอบ ก.รอง ผุ้บัญชาการ (ม.13)( มาตรา. 13 .ในกองบัญชาการหนึ่ง ให้มีผู้บัญชาการคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจ และรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้น ขึ้นตรงต่อผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจะให้มีรองผู้บัญชาการเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการรองจากผู้บัญชาการตามที่ผู้บัญชาการมอบหมายด้วยก็ได้( ปัจจุบัน ตำแหน่งผุ้ช่วยผุ้บัญชาการไม่มีแล้วครับ) ความในวรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับกับส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการด้วยโดยอนุโลม รวมทั้งให้หัวหน้าส่วนราชการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบดังเช่นผู้บัญชาการด้วย ข้อ 24. ผุ้บัญชาการต้องรายงายผลการปฏิบัติงานพร้อมทั้งปัญหา และอุปสรรคต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุก กี่เดือน ก. สามเดือน ข.สี่เดือน ค. ห้าเดือน ง.หกเดือน ตอบ ข.สี่เดือน (มาตรา.l4 มาตรา 14 ผู้บัญชาการมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้ (๑) บริหารราชการของกองบัญชาการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒) ควบคุม กำกับ ดูแลบุคลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินอื่นของกองบัญชาการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๓) เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติในราชการทั่วไปของกองบัญชาการ (๔) รายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกสี่เดือน หรือตามระยะเวลาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด (๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใดกำหนดให้การดำเนินการใดเป็นอำนาจของอธิบดีหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการมีอำนาจเช่นว่านั้นในฐานะเป็นอธิบดีหรือแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการในกองบัญชาการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ต.ช. กำหนด ข้อ 25 ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มี ใครเป็นผู้มีอำนาจและทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจที่สังกัดกองบัญชาการอื่น และปฏิบัติราชการประจำอยุ่ในจังหวัดนั้น ก.ผู้บัญชาการ. ข.ผู้บังคับการ ค.ผู้กำกับการ ง.ผู้ว่าราชการจังหวัด ตอบ ข.ผู้บังคับการ (ม.15 วรรคสุดท้าย )มาตรา 15 ในกองบังคับการหนึ่ง ให้มีผู้บังคับการคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกองบังคับการนั้น และจะให้มีรองผู้บังคับการเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการรองจากผู้บังคับการตามที่ผู้บังคับการมอบหมายด้วยก็ได้ ความในวรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับกับส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเทียบเท่ากองบังคับการด้วยโดยอนุโลม รวมทั้งให้หัวหน้าส่วนราชการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบดังเช่นผู้บังคับการด้วย ผู้บังคับการมีอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้ (๑) บริหารราชการของกองบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒) ควบคุม กำกับ ดูแลบุคลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินอื่นของกองบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๓) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของทางราชการ ก.ต.ช. ก.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจที่สังกัดกองบัญชาการอื่นและปฏิบัติราชการประจำอยู่ในจังหวัดนั้น ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการ หรือมติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย ในการนี้ ให้มีอำนาจสั่งการใด ๆ เพื่อให้เกิดการประสานงานและความร่วมมือกันในการปฏิบัติหน้าที่ หรือยับยั้งการกระทำใด ๆ ของข้าราชการตำรวจในจังหวัดที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อ-บังคับ หรือคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกองบัญชาการ มติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีไว้ชั่วคราว แล้วรายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ข้อ 26 วอนซะแล้ว ไม่รู้ว่า “ก.ต.ช.” ชื่อเต็มว่าอะไร? ก. กรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ข. คณะกรรมการนโยบายข้าราชการตำรวจแห่งชาติ ค.คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ง.คณะกรรมาการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ตอบ ค.คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ( ตามหัวข้อลักษณะที่ 3) ข้อ 27 จากข้อ 26 มีอำนาจหน้าที่ทำอะไรกันบ้าง? ก.กำหนดนโยบายการบริหารราชการตำรวจ ข.กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ค.ให้ปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบแบบแผน มติคณะรัฐมนตรี และกฎหมาย ง.ทุกข้อที่กล่าวมานั้นละ จำได้นะ ตอบ ง.ทุกข้อที่กล่าวมานั้นละ จำได้นะ (มาตรา. 16 )( ม.16 ให้มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติคณะหนึ่งเรียกว่า “ ก.ต.ช.”) มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการบริหารราชการตำรวจ และกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบแบบแผน มติคณะรัฐมนตรี และกฎหมาย) ข้อ 28 จากข้อ 26 ใครเป็นประธานกรรมการ ก.ผบ.ตร. ข.นายกรัฐมนตรี ค.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตอบ ข.นายกรัฐมนตรี (ม.17 ) มาตรา 17 ให้ ก.ต.ช. ประกอบด้วย (๑) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง (๒) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการสรรหาโดยกรรมการตาม (๑) ให้ประธานกรรมการ โดยคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจโทขึ้นไปคนหนึ่งเป็นเลขานุการ ก.ต.ช. และแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจตรีขึ้นไปจำนวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ก.ต.ช. หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๒) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ต.ช. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 29 กรรมการโดยตำแหน่ง ของ ก.ต.ช.มีใครกันบ้าง (ปาริชาติตอบหน่อย ดัง ๆ) ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / ปลัดกระทรวงมหาดไทย / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / ปลัดกระทรวงมหาดไทย / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และเลขาธิการสหประชาติ / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ค.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / ปลัดกระทรวงมหาไทย / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม / ปลัดกระทรวงมหาไทย / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และเลขาธิการสหประชาชาติ / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / ปลัดกระทรวงมหาดไทย / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ / ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(มาตรา. 17)( มาตรา. 17 ดูคำเฉลย ข้อ 28) ข้อ 30 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนกี่คนครับ พี่น้อง? ก. 9 คน ข.8 คน ค. 6 คน ง. 4 คน ตอบ ง. 4 คน (ม.17) ( ม.17 วรรคสอง (2) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน สี่คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการสรรหาโดยกรรมการตาม (1 ) ดูคำเฉลย ข้อ 28 ข้อ 31 หลักเกรณ์ และวิธีการสรรหากรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิ ให้เป็นไปตามที่........... ก.ระเบียบ ก.ต.ช. ข.ระเบียบ ก .ตร. ค.ระเบียบ ครม. ง.ระเบียบ ข.ต.อ.ตอบ ก.ระเบียบ ก.ต.ช.( ม.17 ) ( ม.17 ) ใ ห้ ก.ต.ช.ประกอบด้วย ( 1 ) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม และเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง(2) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน สี่คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการสรรหาโดยกรรมการตาม (1 ) ให้ประธานกรรมการโดยโดยคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ยศ พล.ต.ท.ขึ้นไปคนหนึ่งเป็นเลขานุการ ก.ต.ช. และแต่งตั้งข้าราชการยศ พล.ต.ต.ขึ้นไป จำนวนไม่เกิน สองคนเป็นผู้ช่วย เลขานุการ ก.ต.ช. หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตาม (2 ) ให้เป็นไปตามที่กำหนดใน ระเบียบ ก.ต.ช. . ให้ นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา) ข้อ.32 ข้อใดถูกต้อง ครับบบบก. ผบ.ตร.เป็นประธาน ก.ต.ช.ข. ประธานสามารถเลือกเลขานุการ (ก.ต.ช.)มาทำหน้าที่ตามคำแนะนำของ ผุ้ทรงคุณวุฒิค. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศชื่อกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษาง. กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิทั้ง หกคน ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการสรรหาโดยกรรมการโดยตำแหน่ง ตอบ . ค ให้นายกรัฐมนตรีประกาศชื่อกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา(ม.17 ) ( มาตรา. 17 วรรคสุดท้าย ดูคำอธิบาย ข้อ 31 ) ข้อ 33 การแต่งตั้งเลขานุการ ก.ต.ช. ข้อใดผิด? ก.ให้ประธานแต่งตั้ง ข.ผบ.ตร.แนะนำ ค.ยศ พล.ต.ท.ขึ้นไป จำนวน 1 คน ง.พล.ต.ต.ขึ้นไปอีก 3 คนเ ป็นผุ้ช่วยเลขาฯ ตอบ ง.ครับ ข้อ ง.พล.ต.ต.ขึ้นไปอีก 3 คนเ ป็นผุ้ช่วยเลขา(มาตรา. .17 )( มาตรา. 17 ดูคำอธิบายข้อ 31 พล.ต.ต.ขึ้นไปไม่เกิน สองคน ครับ ) ส่วนที่เหลือถูกต้องครับ ก.ให้ประธานแต่งตั้ง / ข.ผบ.ตร.แนะนำ / ค.ยศ พล.ต.ท.ขึ้นไป จำนวน 1 คน (เช่นกัน ดูคำอธิบาย ข้อ 31 ) ข้อ 34.การออกระเบียบ ประกาศหรือมติในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารราชการตำรวจ และวิธีปฎิบัติราชการของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามแบบแผน และนโยบายที่ ก.ต.ช.กำหนด จะใช้บังคับได้ต่อเมื่อ ก.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ข.ออกเป็นพระราชกฤษฏีกา ค.ออกเป็นพระราชบัญญัติ ง.ออกเป็นระเบียบ ตอบ ก.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว(มาตรา. 18 วรรคสุดท้าย ) มาตรา18 นอกจากอำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๑๖ ให้ ก.ต.ช. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย (๑) ออกระเบียบ ประกาศ หรือมีมติในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารราชการตำรวจและวิธีปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ ให้เป็นไปตามแบบแผนและนโยบายที่ ก.ต.ช. กำหนด (๒) เสนอแนะให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๖ วรรคสอง (๓) พิจารณาดำเนินการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ (๔) กำหนดกระบวนการและขั้นตอนในการกระจายอำนาจระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับตำรวจภูธรจังหวัด และราชการส่วนท้องถิ่น ในกรณีที่ ก.ต.ช. เห็นว่ามีความจำเป็นและเหมาะสม (๕) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานตามที่ ก.ต.ช. มอบหมาย (๖) ตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย การบริหารราชการตำรวจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่น ในการนี้ ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจของกรุงเทพมหานคร จังหวัดและสถานีตำรวจต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของ ข้าราชการตำรวจในเขตพื้นที่ดังกล่าว แล้วรายงาน ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามควรแก่กรณีต่อไป องค์ประกอบ การดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ก.ต.ช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (๗) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายหรือตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ก.ต.ช. ระเบียบหรือประกาศตาม (๑) เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ ข้อ 35.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม มาตรา. 17 ต้องมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ในด้านใดบ้าง? ก..กฏหมาย / การงบประมาณ / การพัฒนาผู้นำ / การวางแผนหรือการบริหาร / การจัดการ ข.กฏหมาย / การงบประมาณ / การพัฒนาองค์กร / การวางแผนหรือการบริหาร / การจัดการ ค. .กฏหมาย / การจัดองค์การ / การพัฒนาองค์กร / การวางนโยบายหรือการบริหาร / การจัดการ ง. .กฏหมาย / การงบประมาณ / การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ / การวางนโยบายแผนงาน/ การจัดการ ตอบ ข.กฏหมาย / การงบประมาณ / การพัฒนาองค์กร / การวางแผนหรือการบริหาร / การจัดการ(มาตรา. 19) (มาตรา.19 กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิตาม มาตรา. 17 (2 ) ต้องมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ในด้าน กฎหมาย การงบประมาณ การพัฒนาองค์กร การวางแผนหรือการบริหาร และ การจัดการ ข้อ 36 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีอายุเท่าไร? ก. 65 ปี ข.55 ปี ค.50 ปี ง.40 ปี ตอบ ง.40 ปี ( มาตรา. 20)มาตรา 20 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์ (๓) ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือเป็นที่ปรึกษาของข้าราชการการเมืองหรือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม (๔) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง (๕) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๖) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (๗) ไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๘) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ (๙) ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ (๑๐) ไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือผู้จัดการ หรือดำรงตำแหน่งอื่นใดที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันนั้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 37 จากข้อ 36 มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ กี่ปี กี่ วาระ ? ก.2 ปี ไม่เกิน 4 วาระ ข. 4 ปี ไม่เกิน 4 วาระ ค. 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระ ง. 2 ปี ไม่เกิน 2 วาระ ตอบ ค. 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระ ( มาตรา. 21) (มาตรา. 21 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับสรรหาใหม่เข้ารับหน้าที่ ) ข้อ 38 เมื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ แล้ว?ก.ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการ ข.ให้พ้นจากหน้าที่ภายใน 30 วันค..ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการสรรหาใหม่เข้ารับหน้าที่ ง.ให้ประธานเตรียมเสนอชื่อเพื่อรับตำแหน่งอีกวาระตอบ ค..ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการสรรหาใหม่เข้ารับหน้าที่ ( ม.21) (มาตรา. 21 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับสรรหาใหม่เข้ารับหน้าที่ ) ข้อ 39 จากข้อ 38 นอกจากพ้นตามวาระแล้วมี กรณีใดอีกจึงถือว่าพ้นจากตำแหน่ง ? ก.อายุ ครบ 70 ปี ข.ประพฤติไม่สมควร ขาดจริธรรมค.สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองง.ถูกทุกข้อตอบ ก.อายุ ครบ 70 ปี( ม. 22 ) มาตรา. 22 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา. 21 กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิพ้นตำแหน่งเมื่อ (1) ตาย (2) มีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ (3) ลาออก (4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา. 20 (5) ก.ต.ช.มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดให้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากความประพฤติเสื่อมเสียหรือมีการกระทำหรือมีคุณลักษณะไม่เหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้ดำเนินการสรรหา และแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการแทน เว้นแต่วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน ในกรณีนี้จะไม่ดำเนินการให้มีการสรรหาก็ได้ ข้อ 40 หากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง ก่อนวาระ ให้ดำเนินการอย่างไรก.ให้ดำเนินการสรรหาข.สรรหาแล้วและแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการแทนค. ก.และ ข. ถูกง.รอประธานแต่งตั้งใหม่ตอบ ค. ข้อ ค. ก.และ ข. ถูก ( ม. 22) (ดูคำเฉลยข้อ 39) ข้อ 41 จากข้อ 40 กรณีใดจะไม่ดำเนินการสรรหาก็ได้ ก.การดำรงตำแหน่งของกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 45 วันข..การดำรงตำแหน่งของกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 60 วัน ค..การดำรงตำแหน่งของกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 90 วัน ง..การดำรงตำแหน่งของกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 30 วัน ตอบ ค..การดำรงตำแหน่งของกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 90 วัน (ม.22) (ดูคำเฉลยข้อ 39 ครับ)
ข้อ 42 การประชุม ก.ต.ช.จะต้องมีกรรมการมาประชุมเท่าไร จึงจะครบองค์ประชุม ?ก.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งข.ครึ่งหนึ่ง ค .ครบจำนวนกรรมการ ง.ไม่น้อยกว่าสองในสาม ตอบ . ก.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง (ม.23)มาตรา 23 การประชุมของ ก.ต.ช.ต้องมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ในการประชุม ก.ต.ช. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ประธานกรรมการ และกรรมการโดยตำแหน่งจะมอบหมายบุคคลใดให้มาประชุมแทนไม่ได้ ให้ ก.ต.ช. มีอำนาจออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุม และการลงมติของ ก.ต.ช. คณะกรรมการตาม ม.18(5) และของคณะกรรมการตาม มาตรา. 18 ( 6) ) ข้อ 43 ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ จะแก้ไขอย่างไร? ก.ให้กรรมการผู้อวุโสทำหน้าที่ประธานข.ให้ประธานแต่งตั้งรองประธานทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมค.ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ง.ให้ประธานและกรรมการโดยตำแหน่งมอบหมายให้กรรมการมาทำหน้าที่ตอบ ค.ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม(มาตรา. 23)มาตรา 23 การประชุมของ ก.ต.ช.ต้องมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ในการประชุม ก.ต.ช. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ประธานกรรมการ และกรรมการโดยตำแหน่งจะมอบหมายบุคคลใดให้มาประชุมแทนไม่ได้ให้ ก.ต.ช.มีอำนาจออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุม และการลงมติของ ก.ต.ช.คณะกรรมการตาม ม.18(5) และของคณะกรรมการตาม มาตรา. 18 ( 6) ข้อ 44 ใครมีอำนาจในการออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุม และลงมติของ ก.ต.ช.คณะกรรมการตาม มาตรา. 18(5) และของคณะกรรมการตาม มาตรา. 18 (6) ก.ก.ตร. ข.ประธานและกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิที่เข้าร่วมประชุม ค. ก.ต.ช ง. ประธานแต่เพียงผุ้เดียวมาตรา. 18(5) และของคณะกรรมการตาม มาตรา. 18 (6) ตอบ ค. ก.ต.ช(ม 23 ดุคำเฉลยข้อ 43) ข้อ 45 ยศตำรวจมีอะไรบ้าง? ก. พลฯ – พลตำรวจเอก ข.ส.ต.ต. – พลตำรวจเอก ค.พลตำรวจ , ประทวน , สัญญาบัตร ง. ชั้นประทวน – ชั้นสัญญาบัตร ตอบ ข.ส.ต.ต. – พลตำรวจเอก( ม.24 )มาตรา 24 ยศตำรวจมีตามลำดับดังต่อไปนี้พลตำรวจเอกพลตำรวจโทพลตำรวจตรีพันตำรวจเอกพันตำรวจโทพันตำรวจตรีร้อยตำรวจเอกร้อยตำรวจโท ร้อยตำรวจตรี ดาบตำรวจ จ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจเอกสิบตำรวจโทสิบตำรวจตรี ว่าที่ยศใดให้ถือเสมือนมียศนั้น ถ้าผู้ซึ่งมียศตำรวจเป็นหญิง ให้เติมคำว่า “หญิง” ท้ายยศตำรวจนั้นด้วย ข้อ 46 ข้อใดผิด ก.ข้าราชการตำรวจมี3 ชึ้น คือ ชั้นพลตำรวจ ชั้นประทวน ชั้นสัญญาบัตร ข. ชั้นพลตำรวจ ได้แก่ พลตำรวจสำรอง ค. ตำรวจมียศพลตำรวจ รองจาก สิบตำรวจตรี ง.ผิดทั้งหมดตอบ ค. ตำรวจมียศพลตำรวจ รองจาก สิบตำรวจตรี (ปัจจุบันนี้ไม่มียศ พลตำรวจ ตาม มาตรา. 24 แต่มี 3 ชั้นยศ มาตรา. 25 ครับ ) ก และ ข.เป็นข้อที่ถูกแล้วครับ ก.ข้าราชการตำรวจมี3 ชึ้น คือ ชั้นพลตำรวจ ชั้นประทวน ชั้นสัญญาบัตร ข. ชั้นพลตำรวจ ได้แก่ พลตำรวจสำรอง และพลตำรวจสำรองคือ ผู้ทีได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ โดยได้รับการคัดเลือกหรือสอบแข่งขันเข้ารับการศึกษาอบรมในสถานศึกษาของ สตช. ข้อ 47 ใครสั่งแต่งตั้งยศพลตำรวจตรีได้ ก.นายกรัฐมนตรี ข.ผบ.ตร. ค.คณะรัฐมนตรี ง. ก.ต.ช.ตอบ ก.นายกรัฐมนตรี ( มาตรา. 26 การแต่งตั้งยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร. และให้ทำโดยประกาศพระบรมราชโองการ การแต่งตั้งยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นกรณีพิเศษอาจกระทำได้โดยประกาศพระบรมราชโองการ ในระหว่างที่ยังไม่มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร จะแต่งตั้งว่าที่ยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นการชั่วคราวก็ได้ให้ผู้มีอำนาจดังต่อไปนี้ เป็นผู้สั่งแต่งตั้ง (1) แต่งตั้งยศพลตำรวจตรีขึ้นไป ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง (2) ตั้งแต่ว่าที่ยศร้อยตำรวจตรีขึ้นไป แต่ไม่สูงกว่าว่าที่ยศพันตำรวจเอกให้ ผบ.ตร. เป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ข้อ 48 ผบ.ตร.สั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศใดได้บ้าง ก. พล.ต.อ.ลงมา ข. พล.ต.ท. ลงมาแต่ไม่ต่ำกว่า พ.ต.อ. ค.ร.ต.ต.ขี้นไปแต่ไม่สูงกว่า พ.ต.อ. ง. ร.ต.ต.ขึ้นไปแต่ไม่สูงกว่า พ.ต.ท.ตอบ ค. ร.ต.ต.ขี้นไปแต่ไม่สูงกว่า พ.ต.อ. (ม26 อย่าลืมคำว่า.. ตั้งแต่ว่าที่นะครับ..ดูคำเฉลยข้อ 47..) ข้อ 49 การแต่งตั้งยศตำรวจชั้นประทวน ใครสั่งแต่งตั้งได้? ก. ผบ.ตร. ข.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ ผบช.ขึ้นไปสั่งแต่งตั้ง ค.ทั้งข้อ ก.และ ข.ถูก ง. ยังไม่มีข้อถูก ตอบ ข้อ ค. ครับ ค.ทั้งข้อ ก.และ ข.ถูก( ม.27 )มาตรา 27 การแต่งตั้งยศตำรวจชั้นประทวน ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการขึ้นไปซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ตร ) ข้อ 50 การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรให้ทำอย่างไร? ก.เป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข.ให้ออกเป็นกฎกระทรวง ค. ให้ออกเป็นพระราชกฤษฏีกา ง. ให้ออกเป็น พระราชบัญญัติ ตอบ ก.เป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ม.28 )มาตรา 28 การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ให้เป็นไปตามระบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติและให้ทำโดยประกาศพระบรมราชโองการ ) ข้อ 51 กรรมการ” ก.ตร.”โดยตำแหน่งมีใครบ้าง?ก.เลขาธิการ ก.พ. ข .ผบ.ตร. ค.จเรตำรวจแห่งชาติ และ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ง. ข้อ ก.และ ข.ถูก ตอบ ง. ข้อ ก.และ ข.ถูก ก.เลขาธิการ ก.พ. ข .ผบ.ตร. ข้อ ค .ผิดเพราะ จเรตำรวจแห่งชาติ และ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องเป็น รอง ผบ.ตร.ครับ มาตรา 30 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “ก.ตร.” ประกอบด้วย (๑) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เลขาธิการ ก.พ. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ ข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง (๒) กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากผู้ซึ่งได้รับการเลือกตามมาตรา ๓๕ ดังต่อไปนี้ (ก) ผู้ซึ่งเคยรับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการ หรือเทียบผู้บัญชาการขึ้นไปจำนวนห้าคน แต่ต้องเป็นผู้ซึ่งพ้นจากความเป็นข้าราชการตำรวจไปแล้วเกินหนึ่งปี (ข) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นข้าราชการตำรวจจำนวนหกคน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม หรือสาขาอื่นตามที่ ก.ตร. กำหนด สาขาละไม่เกินหนึ่งคน เว้นแต่ในกรณีที่มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นกรรมการข้า-ราชการตำรวจตาม (๑) เพิ่มขึ้น ก็ให้มีกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนของ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลซึ่งเคยเป็นข้าราชการตำรวจ หากได้พ้นจากความเป็นข้าราชการตำรวจไปแล้วเกินสิบปีและมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปี อาจได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๒) (ข) ได้ แต่ต้องมีจำนวนไม่เกินหนึ่งคน ให้ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นเลขานุการ ก.ตร. และรองผู้-บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ก.ตร. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 52 วอนอีกแล้ว ไม่รุ้ชื่อเต็ม ก.ตร.?ก. คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติข. คณะกรรมการตำรวจค. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจง. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจแห่งชาติตอบ ค. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (อ่านคำเฉลย ข้อ 51 นะครับ) ข้อ 53 บุคคลใดที่อาจจะถูกสรรหามาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ? ก.เคยเป็นข้าราชการตำรวจ และพ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วเกินสิบปี ข.เคยเป็นข้าราชการตำรวจ และพ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วเกินสิบห้าปีค.เคยเป็นข้าราชการตำรวจ และพ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วเกินห้าปีง.เคยเป็นข้าราชการตำรวจ และพ้นจากความเป็นตำรวจกี่ปีก็ได้ตอบ ก.เคยเป็นข้าราชการตำรวจ และพ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วเกินสิบปี (ระวังดีๆ นะครับ เขาถามว่าอาจจะ มาตรา.ที่ 30)( มาตรา. . 30 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “ ก.ตร.” ประกอบด้วย (1) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เลขาธิการ ก.พ. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ และ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง ) ( 2 ) กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากผู้ซึ่งได้รับการเลือกตามมาตรา. 35 ดังต่อไปนี้ ก ) ผู้ซึ่งเคยรับราชการตำรวจในตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการหรือเทียบผู้บัญชาการขึ้นไป จำนวน ห้าคนแต่งต้องเป็นผู้ซึ่งพ้นจากความ เป็นข้าราชการตำรวจไปแล้วเกินหนึ่งปี ข.)ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นข้าราชการตำรวจจำนวนหกคน ซึ่งมีความเชียวชาญในสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ อาชญาวิทยา และงานยุติธรรมหรือสาขาอื่น ตามที่ ก.ตร. กำหนด สาขาละไม่เกินหนึ่งคน เว้นแต่ในกรณีที่มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นกรรมการข้าราชการตำรวจ (1) เพิ่มขึ้นก็ให้มีกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลซึ่งเคยเป็นข้าราชการตำรวจ หากได้พ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วเกินสิบปี และมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปี อาจได้รับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (2)(ข) ได้แต่ต้องมีจำนวนไม่เกินหนึ่งคน ให้ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นเลขานุการ ก.ตร. และ รองผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ก.ตร. ให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 54 จากข้อ 53 ต้องมีอายุเท่าไร?ก.ไม่เกิน 50 ปีก.ไม่เกิน 55 ปีก.ไม่เกิน 60 ปีก.ไม่เกิน 65 ปี ตอบ ไม่เกิน 65 ปี (คำเฉลยอยุ่ มาตรา.และวรรคเดียวกันกับข้อ 53 ) ข้อ 55 เลขานุการ ก.ตร.สรรหามาจากไหน ก. ผู้บัญชาการสำนักงานพัฒนาคณะกรรมการข้าราชการตำรวจข. ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจค. ผู้บัญชาการสำนักงานกรรมการข้าราชการตำรวจง. ผู้บัญชาการสำนักงานกรรมการตำรวจตอบ ข. ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ดูคำเฉลย ม.30 ข้อ 53) ข้อ 56 กฎ ก.ตร.จะใช้บังคับเมื่อใด?ก. ประกาศเป็นกฏกระทรวง ข. ประกาศเป็นพระราชบัญญัติ ค.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอบ ค.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา. 31 วรรคสุดท้าย) ข้อ 57 เพื่อรักษาความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้ง และโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้ ก.ตร.ออกกฏ ก.ตร. กำหนดหลัดเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้ง และโยกย้ายข้าราชการตำรวจไว้ให้ชัดเจนแน่นอน กฎ ก.ตร.ดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ...... วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 120 วันง. 180 วัน ตอบ ง. 180 วัน ( มาตรา. 33 เพื่อรักษาความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้ง และโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้ ก.ตร.ออกกฏ ก.ตร. กำหนดหลัดเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้ง และโยกย้ายข้าราชการตำรวจไว้ให้ชัดเจนแน่นอน กฎ ก.ตร.ดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด หนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ) ข้อ 58 กรรมการข้าราชการตำรวจจะเป็นกรรมการใน ก.ตร.ในขณะเดียวกันได้หรือไม่?ก.ไม่ได้ ข.ยกเว้น นายกรัฐมนตรี ค.ยกเว้น ผบ.ตร.ง.ทุกข้อถูกครับ ตอบ ข้อ ง.เท่านั้นครับ (มาตรา. 34 กรรมการข้าราชการตำรวจจะเป็นกรรมการใน ก.ตร. ในขณะเดียวกันไม่ได้ เว้นแต่ นายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ข้อ 59 กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี กี่วาระ? (ระวังนะครับ ข้อนี้ไม่แม่นจริง โดนหลอกแน่) ก. ดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี 2 วาระ ข.ดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี 1 วาระ (ม.38 ) ค.ดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี 4 วาระ ง.ดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี 4 วาระ ตอบ ข.ดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี 1 วาระ (มาตรา..38 กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว ให้กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพันตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวฒิซึ่งได้รับเลือกใหม่เข้ารับหน้าที่ ข้อ 60 ในกรณีที่กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิจะพันจากตำแหน่งตามวาระ ให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ภายใน กี่วัน ก่อนที่จะครบวาระ ?(ตอบ ดี ๆ เน้อ ระวังสับสน)ก. 60 วันก่อนวันครบวาระ (ม.41)ข. 90 วันก่อนวันครบวาระ ค. 120 วันก่อนวันครบวาระ ง. 180 วัน ก่อนวันครบวาระตอบ 60 วันก่อนวันครบวาระ (มาตรา. 41 ในกรณีที่กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิจะพ้นตำแหน่งตามวาระ ให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกกรรมการชข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ภายในหกสิบวันก่อนวันครบกำหนด
ข้อ 61. การ ประชุม ก.ตร.ก. ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการข้าราชการ ตำรวจทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ข. ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิจึงจะเป็นองค์ประชุมค. ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่งจึงจะเป็นองค์ประชุมง. ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่า 2ใน 3 ของจำนวนกรรมการข้าราชการตำรวจทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุมตอบ ก. ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการข้าราชการตำรวจทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม(ม.42) (มาตรา. 42 การประชุม ก.ตร.ต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจมาประชุมไม่น้อยกว่ากี่งหนึ่งของจำนวนกรรมการข้าราชตำรวจทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการข้าราชการตำรวจที่มาประชุมเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ให้ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผุ้เรียกประชุม แต่ในกรณีที่กรรมการข้าราชการตำรวจไม่น้อยกว่าหกคนร้องขอให้เรียกประชุมให้ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจเรียกประชุมภายในเจ็ดวันนับแต่วันได้รับร้องขอ ให้ ก.ตร.มีอำนาจออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร.และของคณะอนุกรรมการ ตามมาตรา. 31 (9)) ข้อ 62 ให้ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผู้เรียกประชุมแต่ในกรณีที่กรรมการข้าราชการตำรวจไม่น้อยกว่า ....... คน ร้องขอจึงจะเรียกประชุมได้ก. 5 คน ข. 6 คน ค. 7 คนง. 8คนตอบ ข. 6 คน ( ม.42 ดูคำเฉลยข้อ 61) ข้อ 63 จากข้อ 62 จะเรียกประชุมได้ภายในกี่วัน นับแต่วันได้รับร้องขอ? ก.30 วัน ข. 15 วัน ค. 10 วัน ง. 7 วัน ตอบ ง. 7 วัน ( ม.42 ดูคำเฉลยข้อ 61)) ข้อ 64 ในกรณีที่ ก.ตร.มีหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติ ให้ใครเป็นผู้เสนอเรืองต่อ ก.ตร. ?ก. นายกรัฐมนตรีข. ประธาน ก.ตร.ค. ผบ.ตร. ง. ใครก็ได้ที่ต้องการเสนอตอบ ค .ผบ.ตร. (ม.43 ในกรณีที่ ก.ตร.มีหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสนอเรื่อง ต่อ ก.ตร. แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิกรรมการข้าราชการตำรวจคนหนึ่งคนใดที่จะเสนอ ) ข้อ 65 von ขอถามตรงๆ เลย ตำแหน่งข้าราชการตำรวจมีกี่ตำแหน่ง? ก.11 ตำแหน่ง ข.12 ตำแหน่ง ค. 13 ตำแหน่ง ง. 14 ตำแหน่ง ตอบ ค. 13 ตำแหน่ง (ม.44 ดูรายละเอียด ตั้งแต่ 1.ผบ.ตร.ถึง13 รองผู้บังคับหมุ่) มาตรา 44 ตำแหน่งข้าราชการตำรวจมีดังต่อไปนี้ (๑) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (๒) จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (๓) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (๔) ผู้บัญชาการ (๕) รองผู้บัญชาการ (๖) ผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (๗) รองผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ (๘) ผู้กำกับการ และพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ (๙) รองผู้กำกับการ และพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (๑๐) สารวัตร และพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ (๑๑) รองสารวัตร และพนักงานสอบสวน (๑๒) ผู้บังคับหมู่ (๑๓) รองผู้บังคับหมู่ ก.ตร. จะกำหนดให้มีตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น โดยจะให้มีชื่อตำแหน่งใดเทียบกับตำแหน่งตามวรรคหนึ่งก็ได้ โดยให้กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร. การกำหนดตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นให้มีเฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เกิดประสิทธิภาพและประหยัด และเมื่อหมดความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร. แล้ว ให้ยุบตำแหน่งนั้น ข้อ 66 . ในส่วนราชการต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้มีตำแหน่งข้าราชการตำรวจแห่งชาติใด จำนวนเท่าใด และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งอย่างใด และจะให้มียศหรือไม่ และถ้าให้มียศจะให้มียศใด รวมตลอดถึงการตัดโอนตำแหน่งจากส่วนราชการหนึ่งไปเพิ่มให้อีกส่วนราชการหนึ่งให้เป็นไปตามที่ ก.ตร.กำหนดโดยให้คำนึงอะไรก.คำนึงถึงลักษณะ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ข.ปริมาณ และคุณภาพของงาน ค.ประสิทธิภาพและการประหยัด ง.ถูกทุกข้อ ตอบ ง.ถูกทุกข้อ ( มาตรา. 45 ในส่วนราชการต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้มีตำแหน่งข้าราชการตำรวจแห่งชาติใด จำนวนเท่าใด และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งอย่างใด และจะให้มียศหรือไม่ และถ้าให้มียศจะให้มียศใด รวมตลอดถึงการตัดโอนตำแหน่งจากส่วนราชการหนึ่งไปเพิ่มให้อีกส่วนราชการหนึ่งให้เป็นไปตามที่ ก.ตร.กำหนดโดยให้คำนึง คำนึงถึงลักษณะ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ปริมาณ และคุณภาพของงาน ประสิทธิภาพและการประหยัด ) ข้อ 67 ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนตาม มาตรา. 44 ได้รับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษตามระเบียบที่ ก.ตร. กำหนดโดยความเห็นชอบของใคร? ก. ผบ.ตร. ข.ประธาน ก.ตร. ค.กระทรวงมหาดไทย ง.กระทรวงการคลัง ตอบ ง.กระทรวงการคลัง( มาตรา. 46 ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนตาม มาตรา. 44 ได้รับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษตามระเบียบที่ ก.ตร. กำหนดโดยความเห็นชอบของ กระทรวงการคลัง ในการกำหนดจำนวนเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษตามวรรคหนึ่ง ให้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานและการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมได้อย่างมีเกียรติโดยเปรียบเทียบกับค่าตอบ แทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมประกอบด้วย ข้อ 68 ในการกำหนดจำนวนเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษตาม ข้อ 67 ได้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานและการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรม ได้อย่างมีเกียรติโดยเปรียบเทียบกับอะไรก.ภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพปัจจุบัน ข.ค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกียวกับกระบวนการยุติธรรมประกอบด้วย ค.ค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เกียวกับการปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ง. ค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกียวกับ ส.ต.ช.ประกอบด้วย ตอบ ข. ค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกียวกับกระบวนการยุติธรรมประกอบด้วย (ดูคำเฉลยข้อ 67 ครับ) ข้อ 69 ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ เมื่อดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่าสามปี และได้รับเงินเดือนถึงขั้นต่ำของระดับ ส.6 อีกทั่งได้ผ่านการประเมินแล้ว พร้อมทั้งมีตำแหน่งว่างให้ผู้นั้น เป็นตำแหน่งอะไร? ก.พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญยอดเยี่ยม ข.พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ค.พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ง.พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ ตอบ ค.พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จาก มาตรา. 47 (5)ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ เมื่อดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่าสามปี และได้รับเงินเดือนถึงขั้นต่ำของระดับ ส.6 อีกทั่งได้ผ่านการประเมินแล้ว พร้อมทั้งมีตำแหน่งว่างให้ผู้นั้น เป็นพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ข้อ 70 การบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใคร เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง? ก. ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ส.ต.ช.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งข. ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งค. ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ต.ช.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งง. ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ค.ร.ม.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง ตอบ ข. ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร.เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง(มาตรา 49)มาตรา 48 ผู้ที่จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ (๓) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (๔) ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (๕) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง (๖) มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กำหนดในกฎ ก.ตร. มาตรา 49 การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้บังคับบัญชาตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง มาตรา 50 การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นพลตำรวจ ชั้นประทวน และชั้นสัญญาบัตร ให้บรรจุจากบุคคลผู้ได้รับคัดเลือกหรือสอบแข่งขันได้ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกหรือการสอบแข่งขันให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎ ก.ตร. และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้บังคับบัญชาที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกหรือสอบแข่งขัน
สรุปสาระสำคัญรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๕๐
คณะผู้รวบรวม
“ถ้าไม่ตั้งใจสอบภาค ข.การที่ได้ใบผ่านภาค ก. มาก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ
”ชุมชนแห่งการแบ่งปัน....ชุมชนของคนท้องถิ่น ...

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550..................................................เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18
บังคับใช้วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 เป็นปีที่ 62 ในรัชกาลปัจจุบัน
มีทั้งหมด 15 หมวด 309 มาตรา ความเป็นรัฐเดี่ยวประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว
จะแบ่งแยกมิได้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอำนาจอธิปไตยอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์
ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้องคมนตรีที่มาองคมนตรี
จำนวนคณะองค์มนตรี หน้าที่ของคณะองค์มนตรีพระมหากษัตริย์แต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย
ประธานรัฐสภาเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานองคมนตรี ประธานองคมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งองคมนตรีประธานองคมนตรี 1 คน และองคมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 18 คนถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษาข้อสอบถามบ่อยครับข้อนี้ เช่น1. อำนาจอธิปไตยเป็นของใคร2. พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงใช้อำนาจทางใดบ้าง ชุมชนของคนท้องถิ่นสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยความเสมอภาคชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ ฯลฯ จะกระทำมิได้สิทธิและเสรีภาพในการศึกษาบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล- บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย- บุคคลย่อมมีเสรีภาพในเคหสถาน- บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการเดินทางและมีเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่- สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจน ความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง- บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน โดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย- บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา- การเกณฑ์แรงงานจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชนบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นการจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขและสวัสดิการจากรัฐบุคคลซึ่งมีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์และไม่มีรายได้เพียงพอ แก่การยังชีพ มีสิทธิได้รับสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะอย่างสมศักดิ์ศรี และความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญบุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิได้หน้าที่ของชนชาวไทย1. พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย2. บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ3. บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง4. บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร บุคคลผู้เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย อำนวยความสะดวก และให้บริการแก่ประชาชนแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจการดำเนินการใดที่เป็นเหตุให้โครงสร้างหรือโครงข่ายขั้นพื้นฐานของกิจการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน หรือเพื่อความมั่นคงของรัฐตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน หรือทำให้รัฐเป็นเจ้าของน้อยกว่าร้อยละ 51 จะกระทำมิได้วุฒิสภาที่มาของวุฒิสภา1. มาจากการเลือกตั้ง 2. มาจากการสรรหาจำนวน 150คน1. จำนวน 76 คน มาจากการเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ๆ ละ 1 คน2. จำนวน 74 คน มาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาวุฒิสภาวาระในการดำรงตำแหน่ง6 ปี และจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระไม่ได้1. ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อสิ้นสุดวาระต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน2. ส.ว. ที่มาจากการสรรหาเมื่อสิ้นสุดวาระต้องมีการสรรหาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันอำนาจหน้าที่ 1. พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านมาจากสภาผู้แทนราษฎร2. ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรอื่นตาม รัฐธรรมนูญ3. ควบคุมฝ่ายบริหารด้วยการตั้งกระทู้ และขอเปิดอภิปรายทั่วไป (ส.ว. 1/3)4. ให้ความเห็นชอบในการถอดถอนบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคุณสมบัติ 1. สัญชาติไทยโดยการเกิด2. อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีบริบูรณ์3. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า4. ไม่เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของ ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง5. ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองยังไม่เกิน 5 ปี6. ไม่เป็น ส.ส. หรือเคยเป็นส.ส. และพ้นจากการเป็น ส.ส.มาแล้วยังไม่เกิน 5 ปี7. ไม่เป็น ร.ม.ต. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและพ้นจากการดำรงตำแหน่งยังไม่เกิน5 ปี8. ส.ว.ที่มีสมาชิกภาพสิ้นสุดมาแล้วไม่เกิน 2 ปีจะเป็น ร.ม.ต. หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้แทนราษฎรที่มา มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจำนวน 480คน1. จำนวน 400 คนมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ๆ ละ 3 คน2. จำนวน 80 คน มาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยแบ่งเขตพื้นที่ประเทศออกเป็น 8 กลุ่มวาระ 4 ปี 1. ถ้าครบวาระให้จัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน2. ถ้ายุบสภาให้มีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 – 60 วัน3. ห้ามควบรวมพรรคการเมืองในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎรหน้าที่ 1. แต่งตั้งและควบคุมฝ่ายบริหาร2. ออกกฎหมาย (พระราชบัญญัติ)คุณสมบัติ 1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด2. อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง3. เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน4. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือเคยเกิด หรือเคยศึกษา (ไม่น้อยกว่า 5 ปี) หรือเคยรับราชการและมีชื่อในทะเบียนบ้าน (ไม่น้อยกว่า 5 ปี) ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง5. ไม่เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภา และมีการสิ้นสุดสมาชิกภาพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี6. ไม่เป็นผู้บริหาร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น7. ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ8. ไม่เป็นคณะกรรมการในองค์กรอิสระ และองค์กรอื่นในรัฐธรรมนูญ9. ไม่เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ฯลฯคุณสมบัติของบุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้ง1. มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี2. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง3. มีรายชื่อในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้งคุณสมบัติของบุคคลที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง1. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช2. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง3. อยู่ในระหว่างต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาล4. วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบชุมชนของคนท้องบทที่ใช้แก่สภาทั้งสองประธานสภาและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแต่ละสภามี- ประธานสภา 1 คน- รองประธาน 1 คน หรือ 2 คนพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ประธานสภาและรองประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการประชุมวุฒิสภา1. การต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภาจึงจะเป็นองค์ประชุมการประชุมครั้งแรก1. ให้มีการประชุมรัฐสภา ครั้งแรกภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการประชุมแบ่งได้ 2 ประเภทคือ1. ประชุมสามัญทั่วไป2. ประชุมสามัญนิติบัญญัติเวลาในการประชุม1. สมัยประชุมสามัญของรัฐสภาสมัยหนึ่ง ๆ ให้มีกำหนดเวลา 120 วัน2. การขยายเวลาต้องได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระมหากษัตริย์3. การปิดสมัยประชุมสมัยสามัญก่อนครบกำหนด 120วัน ต้องได้ครับความเห็นชอบจากรัฐสภาการเรียกประชุม1. พระมหากษัตริย์ทรงเรียกประชุมรัฐสภา ทรงเปิดและทรงปิดประชุม และทรงทำรัฐพิธีเปิดประชุมการประชุมสมัยวิสามัญ1. ผู้ทรงเรียกประชุมคือ พระมหากษัตริย์2. การเรียกประชุม การขยายเวลาประชุม และการปิดประชุมรัฐสภา ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ1.ส.ส. และ ส.ว. รวมกันเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 32.ส.ส. เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3คำร้องให้ยื่นต่อประธานรัฐสภา ให้ประธานรัฐสภานำความกราบบังคมทูลและลงนามรับสนองพระบรมราชโองการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญผู้เสนอ 1 คณะรัฐมนตรี2 ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10หรือ ส.ส. และ ส.ว.รวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 103 ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญผู้พิจารณา 1. สภาผู้แทนราษฎร 2. วุฒิสภาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ1. ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญภายใน 30 วันผู้ตราคือพระมหากษัตริย์1. ถ้าเห็นชอบพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย2. ถ้าไม่เห็นชอบ ทรงพระราชทานคืนมายังรัฐสภาการร่างพระราชบัญญัติผู้เสนอ 1 คณะรัฐมนตรี2 ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน3 ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ (เฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับองค์กรฯ)4 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน (เกี่ยวกับสิทธิ และเสรีภาพของชนชาวไทย กับหน้าที่ของชนชาวไทย)ผู้พิจารณา 1. สภาผู้แทนราษฎร 2. วุฒิสภาผู้ตราคือพระมหากษัตริย์1. ถ้าเห็นชอบพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย2. ถ้าไม่เห็นชอบ ทรงพระราชทานคืนมายังรัฐสภา คณะรัฐมนตรีที่มา พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการฯจำนวน นายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คนวาระ 4 ปีหน้าที่ บริหารราชการแผ่นดินตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ1. ด้านความมั่นคง2. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (ส่วนกลาง, ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น)3. ด้านศาสนา สังคม สาธารณสุข การศึกษา และวัฒนธรรม4. ด้านกฎหมาย และการยุติธรรม5. ด้านการต่างประเทศ6. ด้านเศรษฐกิจ7. ด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม8. ด้านวิทยาศาสตร์ ทรัพย์สินทางปัญญาและพลังงาน9. ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนคุณสมบัติ 1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์3. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่าการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน1. การตั้งกระทู้ – ส.ส. หรือ ส.ว.ทุกคนมีสิทธิตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวกับการงานในหน้าที่2. การเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ2.1 ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติ อภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และต้องเสนอชื่อ ผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย2.2 ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 6 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล2.3 ส.ว.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 มีสิทธิเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ3. การถอดถอนออกจากตำแหน่ง3.1 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีฯลฯ ผู้ใดที่ร่ำรวยผิดปกติ ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกจากตำแหน่งต่อประธานรัฐสภาศาลรัฐธรรมนูญองค์กร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มา พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภาจากบุคคลดังต่อไปนี้1. ผู้พิพากษาศาลฎีกา จำนวน 3 คน2. ตุลาการศาลปกครองสูงสุดจำนวน 2 คน3. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ จำนวน 2 คน4. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ จำนวน 2 คน- ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานศาลฎีการัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 1 คน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8 คนวาระ 9 ปี และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียวคุณสมบัติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี3. ไม่เป็น ส.ส. , ส.ว. , ข้าราชการเมือง , สมาชิกสภาท้องถิ่น , ผู้บริหารท้องถิ่น4. ไม่เป็น หรือเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ของพรรคการเมืองในระยะ 3 ปีก่อนดำรงตำแหน่งหน้าที่ 1. พิจารณาและวินิจฉัยว่ากฎหมายใดขัดแย้งรัฐธรรมนูญ2. พิจารณาและวินิจฉัยความขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างรัฐสภา คณะรัฐมนตรีหรือองค์กร ตามรัฐธรรมนูญที่มิใช่ศาล ศาลยุติธรรมองค์กร คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมที่มา พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและการให้พ้นตำแหน่งของผู้พิพากษาศาลยุติธรรม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมประกอบด้วย1. ประธานศาลฎีกาเป็นประธาน2. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละชั้นศาล ได้แก่ ศาลฎีกา 6 คน ศาลอุทธรณ์ 4 คน ศาลชั้นต้น 2 คน3. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 8 คนและได้รับเลือกจากรัฐสภาหน้าที่ 1. พิจารณาคดีต่าง ๆ ตามระดับชั้นของศาล2. ศาลฎีกา มีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.3.ศาลอุทธรณ์ มีอำนาจพิจารณา และวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นระดับของศาล มี 3 ระดับ คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาศาลปกครององค์กร คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองที่มา คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองและรัฐสภาเห็นชอบแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งจำนวน ประธานศาลปกครองสูงสุด จำนวน 1 คน และตุลาการศาลปกครอง 12 คนหน้าที่ พิจารณาพิพากษาคดีพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานราชการของรัฐ รัฐวิสาหกิจองค์กรปกครองท้องถิ่นหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชนระดับของศาล มี 2 ระดับ คือ1. ศาลปกครองชั้นต้น2. ศาลปกครองสูงสุด องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มี 4 องค์กร คือ1. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.)2. ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ค.ต.ง.)3. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)4. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินคณะกรรมการการเลือกตั้งที่มา 1. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภาประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้2. คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง มีจำนวน 7 คน ได้แก่ ประธานศาลฎีกา ,ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, ประธานศาลปกครองสูงสุด , ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร , บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก 1 คน และบุคคลที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดคัดเลือก 1 คนมีหน้าที่คัดเลือกกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 3 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา3. ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาสรรหากรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 2 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา4. วุฒิสภาให้ความเห็นชอบและประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งจำนวน ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง จำนวน 1 คน และกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 4 คนหน้าที่1. วางระเบียบเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งและการดำเนินการใด ๆ ของพรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม2. วางระเบียบเกี่ยวกับข้อห้ามในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีขณะอยู่ในตำแหน่ง3. กำหนดมาตรการและการควบคุมการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง4. มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมาย5. สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย6. สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือออกเสียงประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่น7. ประกาศผลการเลือกตั้ง ผลการสรรหา และผลการออกเสียงประชามติ8. ส่งเสริมและสนับสนุนหรือประสานงานกับหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือสนับสนุนองค์การเอกชน ในการให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน9. ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติผู้ตรวจการแผ่นดินที่มา 1. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภาประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง2. คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน มีจำนวน 7 คน (เหมือนกับคณะกรรมการสรรคณะกรรมการเลือกตั้ง) ทำหน้าที่สรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน 3 คนเสนอต่อประธานวุฒิสภา3. วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ และประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งจำนวน ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน 1 คน และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน 2 คนวาระ 6 ปี และให้ดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียวหน้าที่ 1. พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียน การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายของข้าราชการ พนักงาน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น2. ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ3. ติดตามประเมินผลและจัดทำข้อเสนอแนะในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติที่มา 1. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของรัฐสภาประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการฯ2. คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ มีจำนวน 5คนประกอบด้วย ประธานฎีกา , ประธานศาลรัฐธรรมนูญ , ประธานศาลปกครองสูงสุด ,ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่สรรหา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ จำนวน 9 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา3. วุฒิสภาให้ความเห็นชอบและประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์เพื่อทรงแต่งตั้งจำนวน ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ จำนวน 1 คน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ จำนวน 8 คนวาระ 9 ปี และดำรงตำแหน่งได้เพียง 1 วาระหน้าที่ 1. ไต่สวนและวินิจฉัยเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง หรือข้าราชการตั้งแต่ผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไป ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่2. ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง3. ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี, ส.ส. , ส.ว. , ข้าราชการการเมือง, ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น4. กำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่มา พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามความเห็นชอบของวุฒิสภา ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการฯจำนวน ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 1 คน และกรรมการตรวจเงินแผ่นดินอีก 6 คนวาระ 6 ปี และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียวหน้าที่ 1. กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน2. ให้คำแนะนำและเสนอแนะแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน3. แต่งตั้งคณะกรรมการวินัยทางการเงินและการคลัง เพื่อวินิจฉัยคดีทางวินัยทางการเงินและการคลังคุณสมบัติ 1. มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการตรวจเงินแผ่นดิน การบัญชี การคลังและอื่น ๆ2. มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญชื่อองค์กร อำนาจหน้าที่1. องค์กรอัยการ มีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี และการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม2. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบและรายงานการกระทำ หรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน. สภาที่ปรึกษา-เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องการตรวจสอบทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไปนี้1. นายกรัฐมนตรี2. รัฐมนตรี3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร4. สมาชิกวุฒิสภา5. ข้าราชการการเมืองอื่น6. ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ ทุกครั้งที่รับตำแหน่ง หรือ พ้นตำแหน่งการถอดถอนจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง1. ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 และ ส.ว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาให้ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง2. ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาให้ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง3. ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว4. เมื่อประธานวุฒิสภาได้รับรายงานจาก ป.ป.ช. แล้วจัดให้มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณามติถอดถอนผู้ใดออกจากตำแหน่ง ต้องมีมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกการปกครองส่วนท้องถิ่น1. รัฐจะต้องให้ความเป็นอิสระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนใน (มาตรา 281)2. การกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำเท่าที่จำเป็น (มาตรา 282)********1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีสภาท้องถิ่นและคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นสมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งที่มาของคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น1. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน2. มาจากความเห็นชอบของสภาท้องถิ่นวิธีออกเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น1. โดยตรง2. โดยลับวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น- มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปีข้อบัญญัติท้องถิ่น- ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าชื่อร้องขอต่อประธานสภาท้องถิ่นเพื่อให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่นอำนาจหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น- บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น- ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ1. ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ- มาจากคณะรัฐมนตรี2. การเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องมาจาก1. ส.ส. ไม่น้อยกว่า 1/52. ส.ส. และ ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1/5 ของทั้งสองสภา3. ประชาชนเข้าชื่อ ไม่น้อยกว่า 50,000 คน3. การพิจารณา แบ่งได้ 3 วาระดังนี้4. ขอห้ามในการเสนอญัตติ- รัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตย หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ห้ามมิให้เสนอวาระที่ 1 (รับหลักการ) ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า กึ่งวาระที่ 2 (พิจารณา) ให้ถือเสียงข้างมาก และรับฟังความคิดเห็นจากประชารอไว้ 15 วันวาระที่ 3 (ลงเสียงลงคะแนน) จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งเมื่อครบ 3 วาระแล้วให้นำมาตรา 150 และ 151 มาใช้นะครับ คือ1. ถ้าเห็นชอบพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย2. ถ้าไม่เห็นชอบ ทรงพระราชทานคืนมายังรัฐสภามาตราที่น่าสนใจมาตราที่เป็นที่สนใจของคนไทย ณ ตอนนี้(15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม) ระหว่างฝ่ายค้าน กับรัฐบาลถ้าใครได้ดูโทรทัศน์ก็คงจะได้รู้ว่ามีการตอบโต้กันระหว่างฝ่ายค้าน กับรัฐบาล อย่างดุเด็ด เผ็ดมัน...มาตราที่จะบอกต่อไปนี้คือ มาตรา 129, 158, และ 159มาตรา 129 การขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ1.ส.ส. และ ส.ว. รวมกันเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 32.ส.ส. เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3คำร้องให้ยื่นต่อประธานรัฐสภา ให้ประธานรัฐสภานำความกราบบังคมทูลและลงนามรับสนองพระบรมราชโองการมาตรา 158 การอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี2.1 ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติ อภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และต้องเสนอชื่อ ผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วยมาตรา 159 การอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล2.2 ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 6 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล******************... เราเชื่อว่าเราทำได้ดีกว่า ...